พวกเราเหล่าเม่าปีกเหล็ก
เพิ่งผ่านครึ่งปีแรก ที่แย่ที่สุดในรอบ 50 ปี (the market worst 1st half) มาด้วยกัน ผลตอบแทนของตลาดหุ้นต่างประเทศช่างดูมีรสชาติ(ดูไม่จืด)โดยแท้
ตลาดหุ้นเรากำลังเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ในวันจันทร์นี้
ความเห็นและแผนส่วนตัวของ Q3 แบบเร็วๆคือ
ผมมีมุมมองที่เป็นลบต่อ "ตลาดหุ้นยุโรป"
นี่คือหมู่บ้านกระสุนตกและเครื่องบินรบตีวงเลี้ยว ของสงครามรัสเซีย ยูเครน โดยแท้
ราคาน้ำมัน ราคาก๊าซ ที่ยืนสูง สนธิกำลังกับสภาพเงินเฟ้อในยุโรปที่รุนแรง จะบีบให้ ECB ต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างแน่นอน ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะถดถอยก็คงตามมา และหุ้นคงยากจะกลับมาในไตรมาสสาม
จะเห็น bottom ไหมยังไม่รู้ ตามดูเรื่อยๆ
ผมมีมุมมองที่ยัง "wait and see" กับตลาดหุ้น USA
ปัญหาเงินเฟ้อที่นี่ ไม่สามารถแก้ด้วยยาวิเศษสูตรดั้งเดิม 2 ขนานคือ การกดดอกเบี้ยต่ำๆ และอัดฉีดสภาพคล่องเต็มที่ได้อีกต่อไป (เพราะทำมาเยอะจนเกิดปัญหาทุกวันนี้นี่แหละ)
วิธีการจัดการ จึงต้องแลกมาด้วยความเจ็บ
คือ ขึ้นดอกเบี้ย และลดสภาพคล่องด้วย(เพื่อสกัดเงินเฟ้อ) และแน่นอนว่า จะต้องมีคนตกงานและมีธุรกิจขนาดย่อมที่ล้มหายตายจาก
เศรษฐกิจจะถดถอย Recession จนกว่าจะกลับสู่สมดุลย์ อย่างน้อยเงินเฟ้อต้องลดลง ผู้กำหนดนโยบายเขาพูดไว้ชัดว่าจะ "เฮ๊ดทุกวิถีทาง" ที่ทำให้เงินเฟ้อลดลงให้ได้
แม้จะเห็นว่าตลาด USA ดูคุ้มค่าราคาถูกและเริ่มน่าสนใจในเชิงมูลค่ากับหุ้นหลายตัว โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ๆใน NASDAQ
แต่ขอเลือก wait and see กับตลาดที่นั่นก่อน Q4 หรือ ปลายปีคงได้เจอกัน
ผมมีมุมมองที่ยัง wait and see กันไปอีกพักใหญ่(อย่างน้อย 1 ปี) กับ digital asset และหุ้นที่เกี่ยวข้องทุกชนิด ตลาดหมีรอบนี้คล้ายกับปลายปี 2017 มากเข้าไปทุกที คือซึม ลง และลงกระชาก แล้วซึม ลง แล้วลงกระชาก วนเวียนไป
นี่จะสูบเงินผู้คนที่ยังหวังเล่นเด้งในระยะสั้นๆลงหลุมดำ รอบที่แล้วก็แบบนี้
ที่ผ่านมีมิตรสหาย ลองปล่อยหมัดสวนไปหลายรอบ แต่เงินหาย...ทุกไม้
ต้องยอมรับว่า มันมีสิ่งที่เราไม่รู้ และแวลู่ของมันไม่มีจุดวัดชัดเจนจริงๆ ถึงนาทีนี้ แทบไม่มีใครกล้าฟันธงแล้วว่า BTC จะลงสุดได้เท่าไหร่ มันยากแท้เหลา
ในขณะที่ตลาดยังเข็ดขยาดกับการเผาผลาญเงินสดครั้งใหญ่ของผู้เกี่ยวข้อง
แต่ Use Cases ของ Digital Asset จะใช้ได้จริงมากขึ้นๆ ตามระยะเวลา และเมื่อผู้คนลืมอดีต และกลับมาเชื่อมั่นกับอรรถประโยชน์ที่ Crypto ทำได้จริงๆอีกครั้ง ถึงจะกลับเป็นขาขึ้นรอบใหม่ได้
ลึกๆยังเชื่อว่าเหรียญหลักๆจะกลับมาได้ แต่เดาว่าคงไม่เร็วๆนี้นะ
ผมมีมุมมองที่เป็นบวก กับหุ้นจีน ทั้ง A share China growth หรือแม้แต่ China Tech ผมคิดว่าพวกเขาผ่านปีชงมาแล้ว
ในขณะที่หลายประเทศกำลังจะขึ้นดอกเบี้ยและดูดสภาพคล่อง แต่พี่จีนกำลังจะทำตรงกันข้าม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ประเทศจีน ก็คือ ประเทศจีน กระบวนท่าลึกลับ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เราว่าเราคิดดีแล้ว กลายเป็นผิด
ผมเองยอมรับว่าปีที่แล้วโดนหุ้นจีนไปไม่น้อย พอร์ตหุ้น แดงยิ่งกว่าซองอั่งเปาอีก ทั้ง Zero COVID ปิดเมือง Any Finance Chinese Tech Regulatory Risks etc.
ผมมีมุมมองที่ดีขึ้นกับหุ้นจีนตั้งแต่ต้น Q2 ได้ลองเสี่ยงซื้อหุ้น Baba ที่ราคาถูกแบบน่าตกใจไป ตั้งใจขายที่ราคาเข้าถัวไม้สามของนักลงทุนระดับโลก วัดใจกันดูว่า จะปีชงสองปีซ้อนไหม
ผลคือได้ ขายออกได้ตามแผน อ่าห์ บรรเทาอาการเจ็บของกองทุนจีนไปได้พอสมควร
หุ้นจีนน่าจะอยู่ในเรด้าห์การลงทุนของใครหลายคน ตามดูกันต่อไป
ผมมีมุมมองส่วนตัวว่า "หุ้นไทย" น่าสนใจกว่าใครในช่วงนี้
SET ผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดไปในช่วงโควิดแล้ว หลายกลุ่มยังไม่กลับมา และปีนี้เป็นต้นไปจะไม่มีการปิดเมืองอีกแล้ว
เรามีปัจจัยเฉพาะตัวที่พอจะพยุงดัชนีได้
เรารู้จักหุ้นของเราดีพอสมควร ต่อให้ลงก็ลงแบบมีทรง ไม่ใช่ลงแบบไร้ทรงหา bottom ไม่เจอ
และมีหุ้นที่ราคายังถูกนอนก้นอยู่พอสมควร
เราอาจจะต้องอาศัยความกล้า และกระแสเงินสดที่มีเข้าซื้อ และปรับพอร์ตไปเรื่อยๆ
ตลาดหุ้นเปลี่ยนไปมาก บทจะขึ้นก็ขึ้นเร็ว บทจะลงก็ลงเร็ว คนที่ซื้อล่วงหน้า มีกำไรมาก็ต้องขายบ้าง ปรับพอร์ตไปตัวที่ยังถูก ทุกการเข้าซื้อต้องมั่นใจว่ายังถูก(กว่ามูลค่า) อันนี้สำคัญ
ในทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ การ keep calm and keep invest และ Selective Recovery เป็นกลยุทธ์หลัก