เมื่อวานช่วงเย็นที่ผ่านมามีการพูดถึงข่าวของแบงก์ชาติว่าด้วยของ "ยกเลิกการจำกัดจ่ายเงินปันผล"
สรุปสาระสำคัญ ประกอบไปด้วย
1. ยกเลิกเพดานจ่ายปันผลของกลุ่มแบงก์ แต่เดิมที่ห้ามจ่ายปันผลเกิน 50% ของกำไรสุทธิประจำปี
2. ปรับอัตรา FIDF ไปที่เดิมที่อัตรา 0.46% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2566 จากปัจจุบันที่ 0.23% จนสิ้นปี 2565
อนึ่ง FIDF คือ อัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
3. โครงการพักทรัพย์ พักหนี้ให้สิทธิซื้อคืนภายในระยะเวลาที่ตกลงไว้จนถึงสิ้นเดือน เมษายน 2566
4. เพิ่มสภาพคล่องภายใต้มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อรองรับการฟื้นตัวและการปรับตัวของธุรกิจ จนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2566
5. คงการลดอัตราการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำที่ 5% ออกไปอีก 1 ปีจนถึงสิ้นปี 2566 และที่ 8% ในปี 2567 และกลับไปปกติที่ 10% ปี 2568
6. คงการขยายสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิตอลที่ 1 ปี ออกไปจนถึงสิ้นปี 2566
ซึ่งประเด็นที่นักลงทุนสนใจอยู่ที่ข้อ 1 ... "ยกเลิกการจำกัดจ่ายเงินปันผล" เนื่องจากผล Stress Test บ่งชี้ความเพียงพอของเงินกองทุนในภาวะวิกฤต
ถามว่าประเด็นข่าวที่ออกมานี้ นักลงทุนควรจะมองอย่างไร เราสามารถพิจารณาออกได้เป็น 2 กรณี ครับ
กรณีแรก : ภาพของเศรษฐกิจโดยรวม
ภาพรวมของการแถลง คือ การยืนยันได้ถึงความเข้มแข็งของสถาบันการเงินที่ดีขึ้นมาจากช่วงวิกฤตโควิด
กรณีที่สอง : ภาพของกลุ่มธนาคารพาณิชย์
มุมมองจะออกไปในโทนกลางๆ ค่อนไปทางบวก สาเหตุเป็นเพราะว่า ...
เรื่องของการจำกัดปันผล เป็นเรื่องที่ตลาดคาดกันไว้มาสักระยะแล้ว จึงไม่มีผลกระทบกับภาพรวมของกลุ่มแบงก์มากนัก
แต่ประเด็นที่น่าสนใจมากกว่า คือ เรื่องของการขึ้นดอกเบี้ย ...
เพราะการขึ้นดอกเบี้ย จะช่วยหนุน Sentiment ของกลุ่มให้เป็นไปในทางบวก (รายได้เพิ่มขึ้น กำไรเพิ่มขึ้น)
ถึงแม้ว่า แบงก์ชาติจะกำหนดให้จ่ายปันผลไม่เกิน 50% แต่ไม่มีแบงก์ไหนเลยจ่ายเกิน 50% เลยในช่วงที่ผ่านมา ยกเว้น Tisco ที่เป็น Holgding จึงสามารถจ่ายปันผล 84% ของกำไรสุทธิ
ถามว่า ที่ผ่านมาแต่ละแบงก์จ่ายเท่าไร มาดูกันครับ
- BBL จ่าย 27% ( ปี 2564 จ่าย 25% ... และปี 2560 -2562 จ่าย 37% )
- KBANK จ่าย 23% ( ปี 2564 จ่าย 21% ... และปี 2560 -2562 จ่าย 28% )
- KTB จ่าย 30% ( ปี 2564 จ่าย 27% ... และปี 2560 -2562 จ่าย 37% )
- SCB จ่าย 40% ( ปี 2564 จ่าย 39% ... และปี 2560 -2562 จ่าย 48% )
ดังนั้น เรื่องของการยกเลิกเพดานปันผล "ไม่น่า" จะมี Impact กับตลาดและกลุ่มแบงก์มากนัก เพราะสิ่งที่นักลงทุนให้ควาสนใจมากกว่า คือ การขึ้นดอกเบี้ย ที่จะทำให้ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ดูดีขึ้น
-----------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ฟิลลิป
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส