ช่วงนี้นักลงทุนจะเริ่มเห็นการลงทุนที่มากขึ้นของ OR ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับน้ำมันมากขึ้น
โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ทาง OR ได้ทุ่มงบราวๆ 2.4 พันล้านบาท ลงทุนใน 4 ดีล มีอะไรบ้างมาดูกันครับ
ดีลแรก : การเข้าลงทุนใน Polar Bear Mission (Freshket)
เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับซัพพลายอาหารสู่ร้านอาหาร โรงแรมและผู้บริโภค ซึ่งมีจุดเด่นทางด้านเทคโนโลยี ซัพพลายเชนและการบริหารสต๊อก Kouen restaurant โดย OR ยังไม่เปิดเผยสัดส่วนการถือหุ้น เนื่องจาก Polar Bear Mission อยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างทุน
ดีลที่สอง : บริการน้ำมันอากาศยาน
การร่วมลงทุนระหว่าง OR และ CNAF เพื่อให้บริการน้ำมันอากาศยานที่พนมเปญ ในกัมพูชา โดยการร่วมลงทุนครั้งนี้ OR จะเป็นผู้ให้บริการรายเดียว กำหนดการแล้วเสร็จในปี 2024
ดีลที่สาม : ธุรกิจเครื่องดื่ม
ร่วมลงทุนกับ Boonrawd Trading เพื่อผลิตเครื่องดื่มพรีเมี่ยม เช่น ชา กาแฟ และอื่นๆ โดยจะใช้ผลิตผลจากฟาร์มของ Boonrawd และ เมล็ดกาแฟของ OR ซึ่งจะเปิดตัวในไตรมาส 3 ปี นี้ และใช้ OEM และการขนส่งที่ทางกลุ่ม Boonrawd ชำนาญ
ดีลที่สี่ : การลงทุนในร้านสะดวกซัก
เมื่อเร็วๆนี้ OR ได้เข้าลงทุนในธุรกิจสะดวกซัก เป็นเงิน 1.1 พันล้านบาทเข้าถือหุ้น 40% ใน K-NEX Corp ผู้ขายและจำหน่ายเครื่องซักและอบสำหรับอุตสาหกรรม และเชนร้านสะดวกซักในชื่อ "Otteri Wash & Dry" โดยปัจจุบันมีอยู่ 595 สาขาทั่วประเทศ มี 70% เป็นแฟรนไชส์... OR ตั้งเป้าเปิด 40 สาขาในสถานี PTT
ทั้งนี้ กำไรจาก 4 ดีลที่กล่าวมายังไม่มีนัยสำคัญอะไรต่อ OR มากนัก เพราะ 3 ดีลแรกยังไม่ดำเนินงาน มีเพียงร้านสะดวกซักเท่านั้น ทำให้มองว่าไม่ได้มีผลต่อผลประกอบการของ OR มาก
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกของ OR ยังอยู่ในธุรกิจค้าน้ำมัน โดยจะมี 2 ประเด็นบวกคือ
1. กำไรจากสต๊อคน้ำมัน
2. ราคาดีเซลที่สูงขึ้น หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจน้ำมันสูงขึ้นไปด้วย
... เมื่อไม่กี่เดือน ทางรัฐบาลมีการปรับราคาดีเซลจาก 29.9 บาท มาเป็น 35 บาท ซึ่งลดแรงกดดันต่ออัตรากำไรค่าการตลาด รวมถึง OR จะมีกำไรจากสต๊อคน้ำมันอีกด้วย
โดยสรุปแล้ว ดีลที่ OR ไปลงทุนจะยัง "ไม่สร้างกำไร" ต่อผลประกอบการของ OR มากนัก แต่ OR จะมีปัจจัยบวกในเรื่องของราคาดีเซลที่สูงขึ้น และกำไรจากสต๊อกน้ำมันมากกว่า
เพียงแต่ดีลใหม่ที่ OR ไปลงทุน อาจจะต้องให้เวลาไปอีกระยะหนึ่ง ...
-----------------------------------------------
Reference