"เจ๊งไป300,000บาท แล้วมาขอแม่อีก300,000บาท บอกจะไปสมัครเรียนวิธีการลงทุน
คิดว่าจะชนะแบบง่ายๆ ? "

การที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมันง่ายขนาดนั้นหรือครับ ?

มีญาติป๊าโทรมาปรึกษาว่า ลูกไม่ยอมเรียนหนังสือ ไม่ยอมทำกิจการที่บ้าน อยากจะเป็นนักลงทุน ก็เลยตัดสินใจให้เงินไปลงทุนตามเพื่อน เจ๊งไป 300,000 บาทแล้ว
กลับมาขอแม่ใหม่บอกว่าจะไปสมัครเรียนคอร์สการลงทุนอีก 60,000 บาท
ผมจะตั้งใจสู้ ตั้งใจเรียนเรื่องการลงทุน จะขอแม่อีก 300,000 บาทเป็นทุนอีกครั้ง ...

ที่ป๊าเคยเล่าให้ฟัง ถ้าเปรียบเทียบการเล่นหุ้นกับการเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว
เอาจริงๆการเริ่มเล่นหุ้นง่ายกว่ามาก เเค่มีเงิน ก็เริ่มเล่นหุ้นได้เเล้ว "ใช้เเค่หูกับใช้แค่ใจ" วัดดวงไปเลย ได้เสียไปเลย ผิดตัวก็ cutloss ง่ายจะตาย
... แต่การที่จะเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว มันยากกว่ามาก ต้องหาทำเล หาสูตรก๋วยเตี๋ยว หาโต๊ะ หาเก้าอี้ ตะเกียบ พนักงานอื่นๆอีก มันยากกว่าการเริ่มเล่นหุ้นอีก
แต่เพราะมันง่ายตอนเริ่มต้น เลยมีคนรุ่นใหม่เข้ามาลงทุนกันเยอะมาก
โดยเฉพาะปัจจุบัน ไม่ต้องไปนั่งสาขาโบรคเก้อเลย แค่มีเงินทุนไม่กี่บาทก็สามารถเปิดบัญชีออนไลน์
ก็ได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนแล้ว

มันเศร้ามากเลยนะครับ กว่าที่คนจะหาเงินมาได้ 300,000 บาท แล้วเอามาเสียง่ายๆในสงครามการลงทุน
คุณเพิ่งขึ้นเวทีต่อยมวย คุณอาจจะต่อยมาสิบครั้งชนะมาสิบครั้งก็ได้
... แต่พอมาต่อยกับแชมป์ที่สิบกว่าปีกว่าจะมาเป็นแชมป์ เขาเคยแพ้มา100 ครั้ง(แพ้ในประสบการณ์อื่นๆด้วย) เขาทนหมัดได้มากกว่าเรา เเชมป์เขาล้มแล้วลุกมาเป็นร้อยครั้งแล้ว รู้เเล้วว่าจะมาไม้ไหน
และที่สำคัญ "เบอร์ของหัวใจ เบอร์หัวใจเขาใหญ่กว่าเรา" เหมือนที่ว่ากันว่า "กระดูกคนละเบอร์"

ยิ่งภาวะตอนนี้ อะไรๆก็ยังไม่ดี ปัญหาระหว่างทาง มีตลอดทาง
มันจะมีอะไรมาสะดุดเท้าเราตลอดทางข้างหน้า เจ็บตัวอีกแน่ๆครับ

ป๊าอยากเตือนจริงๆ คุณอาจจะเคยประสบความสำเร็จอะไรมาบ้างแล้ว คุณเคยชนะในธุรกิจทำสามล้อให้เช่า คุณเคยชนะในธุรกิจเสื้อผ้าในตลาดโบ้เบ๊ คุณสำเร็จจากคนเรียนเก่งจนเป็นหมอ เป็นวิศวกร คุณเคยเป็นเศรษฐีขายรถมอเตอร์ไซด์แล้วปล่อยกู้รถ คุณเคยชนะจากเป็นคนขายส่งเสื้อผ้าในประตูน้ำ คุณเคยเป็นผู้บริหารองค์กรใหญ่ๆ คุณเคยเป็นนักกิฬาทีมชาติ อื่นๆๆๆอีก
หรือแม้แต่ คุณอาจจะเป็นคนขับรถแท๊กซี่ ขับ grab ทุกวัน

บุคคลที่กล่าวมาข้างต้น ป๊าเคยเห็น เคยเป็นเพื่อนร่วมลงทุน เคยเดินกินข้าวกลางวันด้วยกัน มาจนปัจจุบันนี้บ้างก็ชนะเป็นเศรษฐีได้ แต่ส่วนใหญ่เลิกกันไปหมดแล้ว เขาเหล่านั้นยังสอนลูก สอนหลานว่า
"อย่าเข้ามาในสงครามนี้อีก"

ยังมีคนแก่อีกคนที่ชนะในธุรกิจของเขา แต่ล้มเหลวในการเล่นหุ้น บอกกับป๊าว่าเขาจะขายที่อีกหนึ่งแปลง
แล้วกลับมาสู้ใหม่ แต่จนปัจจุบันป๊าไม่ได้เจอแกอีกเลย
ป๊าพูดอยู่เสมอว่าตลาดหุ้นมันคือสงคราม มันไม่ง่ายเลยนะครับ ที่จะชนะในสงครามนี้ แต่มันก็มีคนใหม่ๆที่พร้อมกระโดดเข้ามาเป็นแมลงเม่าอยู่ตลอดเวลา

ด้วยความเป็นห่วงจากใจครับ ...