ต้องยอมรับว่าผลประกอบการของ KEX ในไตรมาส 1 ปีนี้ออกมาได้ "น่าผิดหวัง"
โดยสาเหตุสำคัญมาจากต้นทุนที่ยังควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนของบริษัทที่เพิ่มขึ้น 42% และค่าใช้จ่ายทางด้าน SG&A เพิ่มขึ้นถึง 113%
รวมถึงบทวิเคราะห์หลายๆสำนักต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ผลประกอบการอาจจะยังขาดทุนต่อเนื่องยาวไปถึงสิ้นไตรมาส 2 ของปีนี้เลยก็เป็นได้ จาก 3 เหตุผลหลักด้วยกันคือ
- กลยุทธ์การตัดราคาอย่างต่อเนื่อง
- ช่วงครึ่งปีแรก ถือเป็น Low Season ของธุรกิจขนส่งพัสดุ
- บริษัทยังมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ยังไม่สามารถควบคุมได้
แต่เรื่องของธุรกิจ ถ้าเรารู้ว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหนก็ต้องปรับแก้กันไป และดูเหมือนว่า KEX มีแนวโน้มจะทำได้ดีในจุดนี้ ...
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ของ KEX ได้ผ่านจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้ว โดยมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นจากการแข่งขันที่ลดความรุนแรงลง ซึ่งสิ่งที่นักลงทุนจะได้เห็น คือ
1. ต้นทุนของบริษัทอยู่ในจุดที่ควบคุมได้ดีขึ้น
2. ผลประกอบการของ KEX ค่อยๆฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ !!!
ถึงแม้ว่าผลประกอบการที่กำลังจะออกมาจะ "ขาดทุน" ก็ตาม โดยน่าจะขาดทุนราวๆ -390 ล้านบาท
ผู้บริหารแสดงความคิดเห็นว่า สภาพของอุตสาหกรรมเริ่มดีขึ้น การแข่งขันได้ผ่านจุดเลวร้ายที่สุดมาแล้ว และน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆในช่วงครึ่งปีหลัง การแข่งขันทางด้านราคาได้หยุดลงและเห็นผู้เล่นรายใหญ่ๆเริ่มหันมาเพิ่มราคาแทนการลดราคาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในอุตสาหกรรมเรียกได้ว่า "ปราบเซียน" ไม่ได้เอื้ออำนวยให้ผู้เล่นหน้าใหม่ และก็ไม่ได้ง่ายสำหรับผู้เล่นหน้าเก่า
ดังนั้นเรื่องของการฟื้นตัว เกิดขึ้น แต่ไม่ได้เกิดขึ้นแบบ V-Shape แต่เป็นลักษณะ "ค่อยเป็นไปค่อยไป" มากกว่า
อีกท้ังยังมีเรื่องของราคาน้ำมันที่แพงเป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการของกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น KEX มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายน้ำมันคิดเป็น 12% ของต้นทุนทั้งหมด ...
KEX อาจจะยังไม่สดใสในไตรมาส 2 แต่จุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว
รอเพียงเวลาที่ผลประกอบการจะค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ
------------------------------------
Reference