เวลาเราพูดถึงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession)
เรามักจะมีมุมมองในแง่ลบ
ถ้าถามว่า เราพอจะมองหาข้อดีของการเกิด Recession ได้บ้างไหม
คำตอบ คือ พอจะมีอยู่บ้างครับ
.... ถ้าเราสังเกตเห็นราคาน้ำมันในช่วง 1-2 สัปดาห์มานี้ลงมาแล้วราวๆ 10%
อย่างเมื่อคืนวันพุธวันเดียว ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงมา 5%
โดยสาเหตุสำคัญที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมานี้ เพราะนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจโลกมีโอกาสสูงมากที่จะเกิดสภาวะ Recession
บทวิเคราะห์ Morgan Stanley มีมุมมองว่าโอกาสจะเกิด Recession มีสูงถึง 30% (จากเดิม 15%)
ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นจริงๆ จะทำให้การบริโภคน้ำมันลดลงเข้าสู่จุดสมดุลระหว่างความต้องการซื้อ และความต้องการขาย
เมื่อความต้องการซื้อลดลง ความต้องการขายก็ต้องปรับลดให้สอดคล้องตามหลักกดไกลตลาด ...
จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นราคาน้ำมันโลกลดลงมาครั้งนี้
บทวิจัยของนักลงทุนสถาบันหลายๆแห่ง ต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ราคาน้ำมันอาจจะยืนอยู่ในระดับสูง คือ 100 - 110 เหรียญต่อบาร์เรล ไม่ไกลจากนี้มากนัก
ถ้าราคาน้ำมันยืนบริเวณนี้ จะส่งผลให้เงินเฟ้อค่อยๆปรับตัวลดลงตามไปด้วย
เพราะว่าเกิดการตกใจจากราคาพลังงานพุ่งสูง เลยทำให้เงินเฟ้อสูง
ถ้าราคาพลังงานทรงตัว เงินเฟ้อในการประกาศครั้งหน้าก็อาจจะค่อยๆปรับตัวลดลง
อันนี้ก็ถือเป็นข้อดีของการเกิด Recession ที่จะทำให้ราคาน้ำมันค่อยๆปรับตัวลดลง
แล้วในมุมของนักลงทุนล่ะ ?
เราพอจะหาประโยชน์จากการเกิด Recession ได้บ้างไหม
เว็บไซด์จาก investopedia.com แนะนำว่าการเกิด Recession จะทำให้นักลงทุนได้ประโยชน์ 3 อย่างด้วยกัน คือ ..
1. เราสามารถทำ DCA โดยจะได้หุ้นที่ราคาต่ำลง
การซื้อถัวเฉลี่ยทุกเดือน หรือที่เรียกว่า Dollar-cost averaging เป็นวิธีที่คนหันมาทำกันมากในปัจจุบัน
ในช่วงตลาดหุ้นเป็นขาลง เราจะใช้เงินจำนวนเท่าเดิมแต่จะได้จำนวนหุ้นที่มากขึ้น
เมื่อตลาดกลับตัวเป็นขาขึ้น หุ้นที่เราเคยซื้อตอนขาลงก็จะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนอย่างงดงาม
... ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า บริษัทยังดีต่อเนื่อง
ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว การทำ DCA ในหุ้นยอดแย่ จะเป็นหายนะทางการลงทุน
2. ได้พิจารณาปัจจัยพื้นฐานมากขึ้น
ในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น อะไรก็ดูดีไปหมด
แต่ตอนช่วงตลาดขาลง มีความเสี่ยงจำนวนมาก ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาตระหนักแล้วว่า เราควรออกแบบพอร์ตการลงทุนของเราอย่างไรดี เริ่มศึกษาปัจจัยพื้นฐานของกิจการมากขึ้น เริ่มกลับมาอ่านรายงานประจำปี ติดตามบริษัทมากขึ้น
คำแนะนำของ investopedia.com คือ เลือกซื้อหุ้นที่มีปันผลให้กับนักลงทุน
เพราะอย่างน้อยระหว่างที่เรากำลังรอคอยให้ตลาดกลับตัว นักลงทุนจะได้ปันผลเป็นการสร้างกระแสเงินสดให้กับนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
3. เป็นโอกาสที่ดีในหุ้นกลุ่มสินค้าจำเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค
ในตลาดหุ้นทางฝั่งอเมริกามีหุ้นกลุ่มหนึ่งที่ชื่อว่า Consumer Staples คือหุ้นกลุ่มสินค้าจำเป็น, สินค้าอุปโภคบริโภค ตัวอย่างเช่น Johnson & Johnson, Procter & Gamble หรืออย่าง Wal-Mart
ในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น หุ้นกลุ่มนี้จะเล่นกันในมูลค่าค่อนข้างสูงกว่าตลาด
แต่ช่วงเวลาที่เกิด Recession หุ้นกลุ่มนี้จะโดนแรงเทขายหนักลงมาก่อน เนื่องด้วยว่านักลงทุนกลัวว่าหุ้นกลุ่มนี้รายได้จะโดนกระทบหนักในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ทำให้เป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่อยากเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มสินค้าจำเป็น
จริงๆแล้วเวลาเราพูดถึงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) เราไม่ควรจะมองแต่ประเด็นลบอย่างเดียว
ในแง่บวกก็มีด้วยเหมือนกัน และการมองในแง่บวกเราก็จะเห็นโอกาส ครับ ...
---------------------------------
Reference
investopedia.com