พื้นฐานพลังงานคาร์บอนยังแข็งแกร่ง OPEC เผยมุมมองของอนาคตของพลังงานโลกในอีก 25 ปีไว้ในรายงาน World Oil Outlook ปี 2015 ดังนี้ครับ:

ในปี 2040 สัดส่วนพลังงานจากน้ำมันและแก๊สธรรมชาติจะยังสูงต่อไป ประมาณ 50% ของพลังงานทั้งหมดแต่สัดส่วนของพลังงานตามประเภทจะเปลี่ยนไป โดยสัดส่วนของน้ำมันดิบจะลดลงไปที่ 28% ในปี 2040 ลดลงจาก 43% ในปี 1970 เช่นเดียวกับถ่านหิน ในขณะเดียวกันแก๊สธรรมชาตินั้นจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นไปเป็น 28% ในปี 2040 เพิ่มจาก 15% ในปี 1970 ส่วนแหล่งพลังงานที่จะโตเร็วที่สุดก็คือพลังงานทดแทนประเภทลมและแสงอาทิตย์ โดยสัดส่วนของทั้งสองจะโตได้อีก 7 เท่าในปี 2020-2040 แต่ก็ยังเป็นสัดส่วนเพียงแค่ 4% ของการใช้พลังงานทั้งหมด

OPEC สรุปว่าสัดส่วนพลังงานจากน้ำมันและแก๊สธรรมชาติในปี 2040 หรืออีก 25 ปีจะไม่แตกต่างกับในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะมีสัดส่วน 53% ของการใช้พลังงานทั้งหมด โดยสรุปในปี 1970-2013 การใช้พลังงานรอบโลกโตขึ้น 157% โดยการเติบโตสูงสุดมาจากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีความต้องการพลังงานเพิ่มถึง 500%

ปัจจัยการเติบโตมากขนาดนี้มาจาก

1. การเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมแบบก้าวกระโดด
2. ความเป็นสังคมเมือง (Urbanization)
3. การเติบโตของประชากร
4. ความมั่งคั่งของประชากรที่เพิ่มขึ้น

จากปี 2013-2040 OPEC คาดว่าการใช้พลังงานจะโตขึ้นอีก 49% ซึ่งก็ยังคงเป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและปัจจัยเดิมอย่างการเติบโตของอุตสาหกรรม ความเป็นสังคมเมืองที่ยังเป็นเทรนด์ต่อเนื่อง การเติบโตของประชากร และการเติบโตระเบิดของสังคมชนชั้นกลาง

ว่ากันด้วยเรื่องราคา...สำหรับทิศทางราคาน้ำมันในปี 2040 OPEC มองว่าจะขึ้นไปได้ถึง 160 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล เพราะการเติบโตของเศรษฐกิจโลกซึ่งเกิดจากปัจจัยดังนี้

1. ประชากรโลกจะเพิ่มจาก 7 พันล้านเป็น 9 พันล้านคนในปี 2040 แต่โครงสร้างอายุประชากรจะเปลี่ยนไปเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้นชัดเจน และทำให้ความต้องการใช้พลังงานในช่วงนั้นเติบโตลดลง

2. ความเป็นสังคมเมืองอย่างต่อเนื่อง (Continued Urbanization) ซึ่งจะเพิ่มการเข้าถึงพลังงานของคนชนบท และเพิ่มความต้องการย้ายถิ่นฐาน การเดินทางมากยิ่งขึ้น

United Nations ใช้ตัวเลขอย่าง Urbanization Rate ซึ่งเป็นอัตราส่วนประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองต่อประชากรทั้งหมด พบว่า Urbanization Rate เพิ่มขึ้นจากประมาณ 33% ในปี 1970 มาที่ 50% ในปี 2008 และคาดว่าจะขึ้นไปถึง 63% ในปี 2040

...สำหรับความกังวลเรื่อง Shale Plays... ความท้าทายอย่างหนึ่งของการผลิตน้ำมันในอนาคต ทั้งแหล่งน้ำมันแบบดั้งเดิม (เช่น น้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติ) และแบบไม่ดั้งเดิม (เช่น Shale Oil, Oil Sands) คือ ต้นทุนที่สูงขึ้นในการสำรวจและผลิต เพราะในอนาคต แหล่งน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติจะเข้าถึงได้ยากมากขึ้น ต้องเข้าไปสำรวจในสภาวะภูมิศาสตร์และสภาวะอากาศที่ท้าทายขึ้นมาก ทำให้ต้องใช้เทคโนโลยีราคาแพงมากขึ้นเรื่อยๆในการได้มาซึ่งแหล่งพลังงานใหม่ แม้ว่าจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีการผลิตก็ตาม

นอกจากนี้แหล่งพลังงานจาก Shale มีอัตราการลดลงของการผลิตขึ้นมาได้เร็วกว่าแหล่งพลังงานดั้งเดิมมาก ทำให้ต้องหาแหล่ง Shale เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพื่อคงระดับการผลิต

หากทุกท่านเชื่อมุมมองของ OPEC ก็น่าจะสรุปได้ว่า ปัจจัยพื้นฐานระยะยาวของพลังงานจากน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติยังคงแข็งแกร่งและเติบโตไปตามเมกะเทรนด์ใหญ่ๆอยู่แล้ว แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนหลายปัจจัยในอีก 25 ปีข้างหน้าก็ตามครับ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก World Oil Outlook 2015 โดย OPEC

บทความโดย: บูม MoneyCrown / FB: MoneyCrown