ภาษีลาภลอย (Windfall Tax) ดูเหมือนจะกลับมาเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องให้ความสนใจอีกแล้ว
จริงๆเรื่องของภาษีลาภลอย ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมันเคยนำมาพิจารณากันแล้วสมัยปี 2561 และกำลังจะกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งว่าควรจะจัดเก็บอย่างไรดีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีมากขึ้น
ถามว่า ภาษีลาภลอย คืออะไร
โดยปกติแล้ว เวลาภาครัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเฉพาะ รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ รถไฟขนส่งมวลชนไม่เว้นแม้แต่ สนามบิน ทางด่วน ท่าเรือ มักจะตามมาด้วย "ความเจริญ" ของบริเวณโดยรอบ
เมื่อรอบข้างเกิดความเจริญ "ราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" ก็มักจะสูงขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งคำว่า "สูงขึ้นตามไปด้วย" เราจะเรียกกันสั้นๆว่า "ลาภลอย" ...
ดังนั้น เมื่อเจ้าของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์บริเวณนั้น ได้รับประโยชน์จากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ ก็สมควรที่จะต้องถูกจัดเก็บภาษี เราเรียกกันว่า "ภาษีลาภลอย"
แต่เรื่องของการจัดเก็บภาษีลาภลอย ก็ต้องมีกฏเกณฑ์ในการเก็บด้วยเหมือนกัน สิ่งที่นักลงทุนควรรู้มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเด็นหลักๆ คือ
1. อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ไม่เกิน 5 กิโลเมตร จากตัวสถานีขึ้นลงของโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างโดยรัฐ โดยจะจัดเก็บเฉพาะราคาที่ดินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหักตัวมูลค่าอาคารออกไป
2. การจัดเก็บภาษีจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ
... ช่วงแรก ต้ังแต่วันลงนามจะก่อสร้างโครงการของภาครัฐ จนถึงวันรับมอบ ถ้ามีการซื้อขายในช่วงนี้จะถูกจัดเก็บภาษีลาภลอย "ทุกครั้ง" ที่มีการซื้อขาย โดยจะเก็บเฉพาะมูลค่าที่ดินที่ปรับเพิ่มขึ้น
... ช่วงที่สอง คือ ช่วงที่โครงสร้างนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะจัดเก็บภาษีเพียงครั้งเดียว และจะไม่เก็บทุกครั้งที่เปลี่ยนมือ
3. ภาษีลาภลอย จะเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ 2 ประเภท คือ ที่ดิน และห้องชุดที่ใช้ประโยชน์เพื่อการพาณิชย์ที่มีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท
มูลค่าที่ดินต่ำกว่านี้ไม่มีภาระภาษี และยกเว้นที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยและที่ดินเกษตรกรรม ...
ประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจ คือ แล้วแบบนี้ภาษีลาภลอยจะกระทบกับธุรกิจอสังหามากน้อยแค่ไหน ?
ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส วิเคราะห์เกี่ยวกับภาษีลาภลอยไว้ได้น่าสนใจ 2 ประเด็น อยากจะเล่าให้ฟังสั้นๆแบบนี้ครัล
1. ภาษีลาภลอย ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพราะมีความซับซ้อน มีหลายขั้นตอน
และต้องใช้ระยะเวลาผลักดันกันอีกนาน
2. ภาษีลาภลอย อาจจะมีเรื่องของการจัดเก็บภาษีที่ซ้ำซ้อนอยู่ด้วย เช่น ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งหากโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้น ก็จะถูกสะท้อนลงไปในการซื้อ - ขาย ซึ่งเป็นฐานภาษีอยู่แล้ว
... อย่างไรก็ตาม ถ้าการจัดเก็บภาษีลาภลอยเกิดขึ้นจริงๆ จะกระทบกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทการพาณิชย์ มากกว่ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย
โดยสรุปแล้ว ภาษีลาภลอย มีไว้เพื่อให้ภาครัฐได้จัดเก็บภาษีให้มีความยุติธรรมมากขึ้น
แต่ทั้งนี้บทวิเคราะห์เอเชียพลัสมองว่า ประเด็นนี้ยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้
--------------------------------------------
Reference