มีคำถามที่น่าสนใจ ถามประเด็นเรื่องของการแทรกแซงกลุ่มโรงกลั่น
ถ้าเอาแบบสั้นๆ คือ ตอนแรกภาครัฐขอความร่วมมือให้กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นลดค่าการกลั่นเพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันสูง กระทบกับค่าครองชีพของประชาชน
แต่เมื่อศึกษาแล้วทำไม่ได้ เนื่องจากมีกฏหมายคุ้มครองอยู่
... ทางภาครัฐก็เลยจะเก็บเงินเข้ากองทุนแทน ซึ่งแน่นอนว่าจะกระทบกับกลุ่มโรงกลั่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ถ้าจะให้อธิบายแบบยาวๆ อยากเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ ...
เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลมีมติเห็นชอบควบคุมโรงกลั่นเป็นระยะเวลา 3 เดือน ประกอบไปด้วย 3 ประเด็นคือ
1. นำส่งกำไรค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลเข้าสู่กองทุนน้ำมัน ซึ่งจะเก็บได้ราวๆ 5-6 พันล้านบาทต่อเดือน
2. นำส่งกำไรจากการกลั่นน้ำมันเบนซิน โดยคาดว่าจะเก็บได้ 1 พันล้านบาทต่อเดือน
3. สำหรับโรงแยกก๊าซส่งกำไรส่วนเกิน 50% เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยคาดว่าจะได้ราวๆ 1.5 พันล้านบาทต่อเดือน
ซึ่งถามว่ามีโอกาสจะทำได้ไหม ...
จากอดีตที่ผ่านมาเรื่องของการแทรกแซงเคยพยายามจะทำแล้วหลายครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้จริง เพราะว่าค่าการกลั่นไม่ได้บ่งบอกว่านั้นคือกำไรที่แท้จริงของโรงกลั่น ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกิดขึ้นอีก
อีกทั้ง ถ้าภาครัฐเข้ามาแทรกแซงปรับลดราคาขายปลีกลง จะทำให้ผู้ประกอบการหันไปส่งออกแทน
ถามว่า ถ้าทำได้ขึ้นมาจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มโรงกลั่น ?
คำตอบ คือ เกิดภาพในเชิงลบ และเสน่ห์ของหุ้นโรงกลั่นก็จะหายไปอย่างมาก
ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า การกลั่นปิโตรเลียมจะได้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และกำไรที่เกิดขึ้นก็แตกต่างกัน รวมถึงมีเรื่องของการขาดทุนด้วย เช่น น้ำมันเตา ทำให้โดยภาพรวมแล้วออกมาไม่ได้มีกำไรที่สูงมากนัก
ในอดีตที่ผ่านมา กลุ่มโรงกลั่นกำไรจะขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจ มีทั้งกำไรและขาดทุน มีทั้งสถานการณ์ที่ดี และสถานการ์ที่ย่ำแย่ อย่างเช่น ตอนโควิด-19 ที่ราคาน้ำมันตกต่ำทั่วโลกจนกลุ่มโรงกลั่นก็ต้องฝ่าฝันเรื่องของการขาดทุนด้วยเช่นกัน
ฝ่ายวิจัย มองว่า กำไรขั้นต้นของค่าการกลั่นจะอยู่ที่ราวๆ 4.3-5.4 บาทต่อลิตร
เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วจะเหลือกำไรสุทธิอยู่ราวๆ 3.3-3.8 บาทต่อลิตร
ดังนั้น หากต้ังสมมุติฐานว่ากลุ่มโรงกลั่นต้องสนับสนุนภาครัฐทุกๆ 1 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 1 เดือน จะทำให้กำไรของกลุ่มโรงกลั่นหายไป ..
TOP หายไป 1.3 พันล้านบาท
PTTGC หายไป 691.6 ล้านบาท
IRPC หายไป 1 พันล้านบาท
BCP หายไป 572.4 ล้านบาท
ESSO หายไป 830 ล้านบาท
SPRC หายไป 834 ล้านบาท
ซึ่งจะเป็นการกดดันทั้งกำไร และในแง่ราคาหุ้นของกลุ่มโรงกลั่น อย่างแน่นอน
สรุปแล้ว แทรกแซงกลุ่มโรงกลั่น ส่งผลกระทบมากแค่ไหน
มีผลกระทบมากครับ ทำให้กลุ่มโรงกลั่นหมดเสน่ห์ไปเยอะ เพราะเราต้องเข้าใจว่าโรงกลั่นเป็นเรื่องของ Commodities มีทั้งกำไรและขาดทุน
แต่เหตุการณ์การแทรกแซง ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง
ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านมา "ไม่ประสบความสำเร็จ" ....
-----------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส
HoonSmart
กรุงเทพธุรกิจ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย