เดือนมิถุนายน เปิดมาต้นเดือนสถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรนักสำหรับหุ้นไทย
โดยเฉพาะกระแส Fundflow ของต่างชาติที่เป็น Net Sell เป็นเดือนแรกของปีนี้
ล่าสุดกระแสเงินขายสุทธิไปแล้ว 9.3 พันล้านบาท และมีแนวโน้มจะไหลออกมาขึ้น ...

ถามว่า อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินของต่างชาติไหลออก
อยากจะอธิบายสั้นๆ 4 ปัจจัยแบบนี้ครับ

1. ธนาคารกลางสหรัฐ อาจจะปรับดอกเบี้ยขึ้น
การขึ้นดอกเบี้ยของ FED อาจจะเป็นการกดดันให้ธนาคารกลางของไทยขึ้นดอกเบี้ยตามไปด้วยในการประชุมครั้งหน้าราวๆ 0.25%
เมื่อเกิดการขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้กระแสเงินถูกขายในสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น นั้นเอง

ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า ถ้าดอกเบี้ยถูกปรับขึ้น 0.25% จะกดดันหุ้นไทยลดลงราวๆ 88 จุด

2. ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่อง ทำให้ต่างชาติขาดทุนในอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น
ปัจจุบันค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.84 บาท/เหรียญ เกือบสูงสุดในรอบ 5 ปี 3 เดือน

3. การขึ้นดอกเบี้ยของ FED เพื่อสกัดสินค้าราคาแพง ซึ่งทำให้สินค้าโภคภัณฑ์หลายอย่างปรับตัวลดลง
และตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนหุ้นที่เป็นโภคภัณฑ์ราวๆ 1 ใน 3 เป็นปัจจัยกดดันทำให้หุ้นขึ้นได้ยากกว่าเดิม

4. ความกังวลว่าเศรษฐกิจของอเมริกาอาจจะเข้าสู่ช่วง Recession
ปัจจุบัน Bond yield 2 ปี ให้ผลตอบแทน 3.06%
และ Bond yield 10 ปี ให้ผลตอบแทน 3.16%
ซึ่งห่างกันไม่มาก และมีโอกาสเกิด Inverted Yield Curve ในระยะเวลาต่อมา เป็นสัญญาณเตือนว่านักลงทุนไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจของอเมริกา

บล.เอเชียพลัส วิเคราะห์่าในอดีตที่ผ่านมา เมื่อเกิดเหตุการณ์ Inverted Yield Curve กระแสเงินต่างชาติมักจะเทขายหุ้นไทย

จาก 4 ปัจจัยที่กล่าวมา เป็นสัญญาณว่า Momentum ของ Fundflow มีโอกาสไหลออกจากตลาดหุ้นไทยได้อย่างต่อนื่อง
และมีโอกาสสูงมากที่พลิกกลับมา Net Sell > Net buy สำหรับปีนี้

------------------------------------------
Reference

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส