แหล่งข่าวกล่าวว่า...
ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังคงดอกเบี้ย 0.5% เหมือนเดิม ด้วยมติ 4 ต่อ 3 ท่ามกลางตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 13 ปี
ซึ่งถ้าเราไปดูตัวเลขเงินเฟ้อ ปรากฏว่าในเดือนพฤษภาคม 2565 ตัวเลขเงินเฟ้อกระโดดขึ้นสูงถึง 7.10%
สอดคล้องกับแบงก์ชาติที่มองว่า เงินเฟ้อในปี 2565 ทั้งปี น่าจะอยู่ราวๆ 6.2%
ที่สำคัญ คือ มีแนวโน้มเพิ่มสูงได้อีก จากราคาน้ำมันที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะลง
ทำให้สื่อหลายสำนักตั้งคำถามต่อแบงก์ชาติว่า
ท่ามกลางสถานการณ์ที่เงินเฟ้อสูงทั่วโลก และต่างประเทศก็ปรับขึ้นดอกเบี้ยกัน
แบงก์ชาติของไทย ไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยบ้างเหรอ ?
ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส มองว่า แบงก์ชาติมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตเพียงแต่กำลังรอเวลาที่เหมาสมและคาดว่าอาจจะปรับขึ้นครั้งละ 0.25%
โดยฝ่ายวิจัยวิเคราะห์ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากน้อยแค่ไหน โดยให้เริ่มจาก 1810 จุด ผลสรุปว่า
- ดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ปรับขึ้น 0.25% กระทบ SET Index -88 จุด เหลือ 1722 จุด
- ดอกเบี้ยนโยบาย 1.00% ปรับขึ้นอีก 0.25% กระทบ SET Index -79 จุด เหลือ 1643 จุด
- ดอกเบี้ยนโยบาย 1.25% ปรับขึ้น 0.25% กระทบ SET Index -73 จุด เหลือ 1570 จุด
ภายใต้สมมุติฐานว่า กำไรต่อหุ้น (EPS) ของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 88.9 บาทต่อหุ้น
นั้นหมายความว่า แบงก์ชาติหากมีการขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง จะกดดันหุ้นไทยลงมาเหลือราวๆ 1570 จุด
อย่างไรก็ตาม ในข่าวร้ายก็มีข่าวดีอยู่ด้วยเหมือนกัน นั้นคือ แบงก์ชาติมองว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสโต 3.3% จากเดิมอยู่ที่ 3.2% จาก 2 ประเด็นหลักด้วยกัน คือ
... การบริโภคจากภาคเอกชนที่ฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาด
... การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างมาก หลังการเปิดประเทศ
แต่ดูเหมือนว่าตลาดจะให้น้ำหนักของ "ข่าวร้าย" มากกว่า "ข่าวดี"
------------------------------------------------
Reference