Bank of New York Mellon หรือ BNY Mellon ได้พูดถึงสถานการณ์ที่กลุ่มประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลกสี่ประเทศคือ 1. อเมริกา 2. จีน 3. ญี่ปุ่น และ 4. อินเดีย และเรียกกลุ่มนี้ว่า G4 คิดเป็นกลุ่มที่มี GDP รวมประมาณ 45% ของ GDP โลก
แม้ในขณะนี้นโยบายทางการเงินของกลุ่มประเทศเหล่านี้จะมีแนวโน้มแยกทางออกจากกัน ในขณะที่อเมริกาดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดรัดกุมขึ้น กลุ่มประเทศอื่นๆยังมีแนวโน้มดำเนินนโยบายผ่อนปรนลง
แต่มีสัญญาณการพัฒนาการของเศรษฐกิจทั้ง 4 เกิดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเศรษฐกิจอเมริกาที่ดูดีขึ้น เศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มประคองตัวได้มากขึ้นจากภาคบริโภคที่แข็งแรงอยู่ ญี่ปุ่นที่อัตราเงินเฟ้อค่อยๆฟื้นตัว และการเติบโตที่อยู่ในระดับสูงของอินเดีย รวมถึงเงินเฟ้อของอินเดียที่ลดลงเรื่อยๆ ทั้งหมดนี้ทำให้ BNY Mellon คิดถึงสถานการณ์ที่กลุ่ม G4 ฟื้นตัวพร้อมกัน เป็นกรณีที่มองโลกในแง่ดีมาก แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ถ้าพูดกันในแง่การเติบโตของสถานการณ์ที่มองโลกในแง่ดีนี้ก็คือ ญี่ปุ่นโตได้ 2% จีนโตได้ 7% อินเดีย 8% และอเมริกาโตได้ 3% ไปตลอดตั้งแต่ปี 2016-2020
หากสถานการณ์นี้เกิดขึ้นจริง จะเป็นการกลับเทรนด์ของ commodity ในทันที จากโมเดลที่ Economist Intelligence Unit (EIU) จำลองออกมาตามสถานการณ์ข้างต้นพบผลลัพธ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ในปี 2020
1. ราคาน้ำมันจะกลับหัวขึ้นไปยืนที่ $100 ต่อบาร์เรลได้
2. ราคาอาหารรอบโลกจะสูงขึ้นอีก 40%
3. ดัชนี Nikkei จะขึ้นไปเป็น 24,000 จุด
4. ดัชนี Sensex ของอินเดียจะขึ้นไปแตะ 45,000 จุด
5. ดัชนี S&P 500 จะขึ้นไปแตะ 3,000 ภายในอีก 5 ปีเท่านั้น
หวังว่ามุมมองของ BNY Mellon นี้จะเป็นอีกมุมมองบวกนึงที่มีความเป็นไปได้ ...และทำให้นักลงทุนทุกท่านไม่กังวลอยู่กับอารมณ์ตลาดที่เป็นลบในขณะนี้อย่างเดียวนะครับ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก BNY Mellon - The G4: Undiminished Expectations - Room to Recover
บทความโดย: บูม MoneyCrown / FB: MoneyCrown