#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

“หุ้นเติบโต ราคาหุ้นจะขึ้นจากอะไรได้บ้าง”

โดย นายแว่นลงทุน
เผยแพร่:
649 views

หุ้นเติบโตจะโตได้จากอะไรบ้าง ? คำถามสำคัญสำหรับนักลงทุนหุ้นเติบโต หรือ Growth Investor ซึ่งมันสำคัญพอที่เราจะต้องเรียนรู้กระบวนการทำงานของกำไรของหุ้น และราคาหุ้นอย่างเอาจริงเอาจังเลยทีเดียว

 

การเติบโตของหุ้น และราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นไปทะลุฟ้า มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนครับ ... มีเซียนเคยกล่าวไว้ว่า ... เจ้ามือที่แท้จริงของหุ้น คือกำไรหรือ กำไรต่อหุ้น – Earning Per Share (EPS) นั่นเองครับ 

 

สิ่งที่จะทำให้ราคาหุ้นขึ้นอย่างรวดเร็ว ในมุมมองของผมเอง และนักลงทุนหุ้นเติบโต ผมขอแบ่งออกเป็น สองปัจจัย ได้แก่ 

   1) กำไรต่อหุ้นเติบโตเร็วกว่า พีอีที่ตลาดคาดการณ์

   2) กิจการมีปันผลออกมามากเกินกว่าปกติ

 

สองเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ราคาหุ้นขยับปรับขึ้นเสมอ เท่าที่ผมสังเกตด้วยตัวเอง จากประสบการณ์ ถ้าเราเจอหุ้นที่กำไรโตเร็วมาก แบบตลาดไม่คาดคิด ราคาหุ้นจะพุ่งเป็นจรวดเลยก็ว่าได้ ส่วนในกรณีที่สอง ราคาหุ้นจะค่อย ขยับขึ้น แต่สุดท้ายแล้วก็จะขึ้นสูงมากเช่นกัน มาดูไปทีละข้อดีกว่าครับ

 

ประการแรก ... “กำไรต่อหุ้นเติบโตเร็วกว่า พีอีที่ตลาดคาดการณ์

 

 

จากรูปจะเห็นว่า ... หุ้นตัวนี้กำไรเติบโตเร็วมาก โดย Q2 กำไรโตกว่า 50% ในขณะที่ Q3 กำไรโต 33% และ Q4 กำไรกลับมาโต 50% (เป็นตัวเลขสมมติทั้งหมดนะครับ)

 

แบบนี้ถ้าเราเจอหุ้นที่เราเห็นว่ากำไรเติบโต ในขณะที่ PE ของหุ้นยังต่ำมาก หมายความว่า ตลาดคาดการณ์การเติบโตของหุ้นตัวนี้ต่ำเกินไป และเมื่อตลาดปรับพีอีให้เหมาะสมกับการเติบโตจริง ราคาหุ้นก็ขึ้นไปหลายเท่าตัว

 

บางคนคิดว่า ... เหตุการณ์แบบนี้มีจริงหรือ ? คำตอบก็คือ ตัวอย่างที่ผมยกมาให้พิจารณาอาจจะสุดโต่งไป แต่ก็มีจริง เช่น เหตุการณ์ในปัจจุบัน หุ้น SINGER ที่ช่วงต้นปี 2020 มี PE 13 เท่า แต่กำไรในไตรมาสล่าสุดเติบโตกว่า 117% หากกำไรของหุ้นสามารถเติบโตได้แบบนี้ในไตรมาสต่อ ไป ก็มีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นจะปรับพีอีให้ใหม่ ซึ่งเราต้องติดตามต่อไปเรื่อย มิได้หมายความว่า ตลาดจะต้องปรับพีอีให้ทันทีเสมอไปนะครับ

 

ประการที่สอง ... “กิจการมีปันผลออกมามากกว่าปกติ

 

เหตุการณ์แบบนี้ผมขอยกตัวอย่าง หุ้นจริงอย่าง TACC ที่ทำโถกดเครื่องดื่มในร้าน 7-11 หุ้นตัวนี้ถ้าเราดูประวัติการปันผลย้อนหลังจะพบว่า ปันผลออกมาเกือบ 100% แทบทุกปี ทำให้ราคาหุ้นสามารถทรงตัวอยู่ในระดับสูง

 

จากภาพจะเห็นว่า ... กิจการทำกำไรต่อหุ้นได้เท่าไหร่ ก็จะแทบจะปันผลออกมาหมด ทำให้ราคาหุ้นทรงตัวได้ในระดับสูง และตลาดก็ให้พีอีสูง

 

แต่ข้อเสียของวิธีการนี้ก็คือ หากกิจการมีกำไรไม่มั่นคง ปีไหนที่กำไรหด แม้จะปันผลออกมาเกือบหมด ก็จะทำให้ราคาหุ้นตกอย่างหนัก สังเกตจากปีที่สอง ที่กำไรต่อหุ้นตกอย่างหนักเหลือ 0.11 บาทต่อหุ้น ทำให้ตลาดปรับพีอีลง และราคาหุ้นก็ลงมาครึ่งหนึ่งของราคาในปีแรก

 

ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ ... สิ่งที่จะผลักดันราคาหุ้น ได้แก่ กิจการที่กำไรโตเร็วกว่าที่ตลาดคาดคิด กับ กิจการที่ปันผลออกมาเยอะ ลองค่อย หาดูนะครับ ถ้าเจอตัวไหน แจ้งผมมาก็ได้ครับ จะได้ช่วยกันตรวจสอบให้รอบด้านเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการลงทุน

 

 

:: ขั้นตอนหาหุ้นเติบโต growth stock step by step :: 


นักลงทุนอิสระ นักเขียน และเป็นพ่อของลูกสาว “เอวา” ที่น่ารัก เริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวมด้วยเงินเก็บ 3 หมื่นบาทเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยนำเงินทั้งหมดไปซื้อกองทุนเดียว จากนั้นได้ศึกษาวิธีการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ และมาลงตัวที่การลงทุนหุ้นระยะยาว โดยการลงทุนหุ้นสร้างผลตอบแทนให้กับพอร์ตเล็กๆ ได้อย่างน่าพึงพอใจ จึงทำเพจ “นายแว่นลงทุน” และเว็บไซต์ topofliving.com ที่มีเรื่องราวการลงทุนแบบครบถ้วน ทั้งการออมเงิน กองทุนรวม หุ้น และอสังหาริมทรัพย์

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง