ถ้าใครติดตามสถานการณ์ของโลกจะพบว่า ประเด็นความกังวลที่เป็นจุดสนใจ คือ เรื่องของการขาดแคลนอาหาร
และถ้าเราพูดถึงอาหาร นักลงทุนมักจะนึกถึงหุ้น "CPF"

ที่ผ่านมา หุ้น CPF ถือว่ายังทำผลงานได้ไม่ดีในแง่ของราคาหุ้นที่ไม่วิ่ง ทำให้นักลงทุนมักไม่ค่อยสนใจมากเท่าไรนัก
แต่ช่วง 2-3 วันมานี้ จะพบว่าหุ้น CPF เริ่มกลับมาซื้อขายคึกคักกันอีกครั้ง พร้อมกับราคาหุ้นที่ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ

ถามว่า CPF มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจ ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาสนใจหุ้นตัวนี้่อีกครั้ง
คำตอบ คือกำไรของ CPF มีแนวโน้มกลับมาดีได้ในครึ่งปีหลัง หนุนโดยธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ จากประเด็นบวก 2 แรงหนุนที่น่าสนใจ แบบนี้ครับ

1. หนุนโดยแนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งในไทยและต่างประเทศ
จุดเด่นอยู่ที่ราคาเนื้อสัตว์ในเวียดนามและจีน ฟื้นตัวขึ้นมามาก จากการฟื้นตัวการบริโภคในเวียดนาม การเปิดเมืองในจีน รวมถึงโรงงานไก่ที่เวียดนามอาจจะมีข่าวดีเรื่องของการส่งออกไก่ไปยังประเทศญี่ปุ่นช่วงครึ่งปีหลัง

ในประเทศไทย ราคาหมูและราคาไก่ยังยืนอยู่ในระดับสูง และยังมีแรงหนุนจากอุปทานที่หายไปประมาณ 20% อีกทั้งยังมีเรื่องของการส่งออกไก่ไปยุโรป (จากความขัดแย้งรัสเซีย ยูเครน)
และการเปิดการค้ากับซาอุดิอาระเบีย หลังการเปิดประเทศนำเข้าไก่จากไทยอีกคร้ัง

2. หนุนโดยการนำบริษัทในเวียดนามลิสต์เข้าตลาดหุ้นเวียดนาม
CPF ยังมีประเด็นบวอีกอย่างที่น่าสนใจและนักลงทุนอาจจะมองข้ามไป คือ การนำบริษัท CTI (ของจีน) และเวียดนาม (CPP) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ CPF ได้ยื่นเอกสารให้กับทางเวียดนามในการจดทะเบียนเข้าตลาด แต่แผนการนี้ยังไม่ชัดเจนมากนัก อาจจะต้องใช้ระยะเวลาราวๆ 1 ปีกว่าจะผ่านการอนุมัติจากประเทศเวียดนาม

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ฟิลลิป วิเคราะห์ว่า ข้อดีของการนำบริษัทไปจดทะเบียนที่เวียดนาม จะช่วยในเรื่องของการลดภาระหนี้ของบริษัทให้ลดลง จากเดิมที่อยู่ระดับ 2.5 เท่า

จากประเด็นบวกที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นประเด็นบวกในระยะยาว คือ นำบริษัทจดทะเบียนในเวียดนาม
และประเด็นบวกระยะสั้น คือ ผลการดำเนินงานดีขึ้นในครึ่งปีหลัง จะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการดีขึ้น และคาดว่า Margin จากการดำเนินธุรกิจดีขึ้นตามราคาเนื้อสัตว์
ถึงแม้ CPF อาจจะต้องเจอกับราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด และกากถั่วเหลือง แต่ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และราคาที่สูงขึ้นจะช่วยชดเชยได้หมด

----------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ฟิลลิป