คำถามนี้เป็นคำถามที่นักลงทุนช่างสงสัยท่านหนึ่งถามผมมา ... ผมเองก็พยายามหาคำตอบ แต่คำตอบนั้นต้องบอกว่า ไม่ง่ายเลยครับ เพราะสำหรับผมแล้ว ... ในหนึ่งปีได้เจอหุ้นเติบโตดี ๆ ซักตัว ก็คือว่า ดีมากแล้วครับ
สำหรับยุคนี้ต้องบอกว่าเป็นยุค “ข้าวยากหมากแพง” หรือ ภาษาฝรั่งเขาว่ามันคือ "Stagflation" ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นในรอบ 40-50 ปี เป็นวัฏจักรรอบใหญ่ !
ผมเองก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ แต่พอจะเข้าใจตามภาษานักลงทุนได้ว่า มันเป็นภาวะที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก หมายความว่า เงินเฟ้อพุ่ง แต่เงินในกระเป๋าเราแห้ง ข้าวของแพงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าโภคภัณฑ์ อันได้แก่ น้ำมัน เหล็ก น้ำตาล ถ่านหิน แก๊ส เป็นต้น ทำให้ลามไปถึงสิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องกินต้องใช้ แพงขึ้นตามไปด้วย
ลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นทั่วโลก !
ประเทศไหนอ่อนแอย่อมแพ้ทาง เช่น ศรีลังกา ที่แทบล้มทั้งยืนแล้วครับ ส่วนประเทศไทย ต้องถือว่า ทำได้ดีพอตัว คือยังเอาอยู่ไม่ล้มไปก่อน เงินเฟ้อยังไม่พุ่งมากมายจนน่ากลัว ไม่เหมือนอเมริกา เงินเฟ้อพุ่งกว่า 7-8% เข้าไปแล้ว
ว่ากันว่า หากเงินเฟ้อพุ่งเกิน 10-12% อาจกลายเป็นหายนะ คือ เป็นสิ่งที่เรียกว่า great depression คือการถดถอยครั้งใหญ่ และนั่นจะทำให้ผู้นำโลกเปลี่ยนมือเอาง่าย ๆ ประเทศไหนเงินเฟ้อต่ำกว่า คนนั้นชนะ เขาว่ากันอย่างงั้นเลยนะครับ
ตัดกลับมาที่การลงทุน แล้วภาวะแบบนี้ ยังมีหุ้นให้เราลงทุนอีกหรือ มันดูน่ากลัวยังไงพิกล ?
คำตอบก็คือ ภาวะแบบนี้นักลงทุนแนวเน้นคุณค่า หรือ Value Investor ชอบนักหนา สาเหตุเป็นเพราะ หุ้นดี ๆ ลดราคาลงมาเยอะ และภาวะแบบนี้จะแยกหุ้นเติบโต กับหุ้นไม่โตจริงออกจากกัน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
เพราะหุ้นที่โตจริง สามารถขึ้นราคาสินค้า และบริการเขาได้ ก็ยังมีคนมากินมาใช้ ในขณะที่หุ้นไม่โตจริง ขึ้นราคา คนก็หนีไม่เอา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นที่มีหนี้สินเยอะแยะ ไม่สามารถกู้เพิ่มได้จะยิ่งลำบาก อาจขาดสภาพคล่องเอาได้ง่าย ๆ แถมต้นทุนวัตถุดิบเพิ่ม แต่ขึ้นราคาสินค้าไม่ได้ ยิ่งหนักหนาสาหัส
ภาวะแบบนี้แหละ คือ ต้นกำเนิด “เซียนวีไอ” เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นรอบใหญ่ตามธรรมชาติ ใครจะไปห้ามได้ ? และเมื่อมันเกิดแล้ว คนที่มองเห็นโอกาสเท่านั้น จะคว้าเอาไว้จนได้ !
ตัวอย่างหุ้นกาแฟตู้ ที่ผมคว้าเอาไว้ได้ !
หุ้นตัวนี้เป็นหุ้นที่ผมลงทุน แล้วคว้าผลตอบแทนได้เป็นเด้ง ๆ ... สาเหตุที่ผมสนใจเพราะเป็นเรื่องแปลกใหม่มาก ๆ ที่เราสามารถกดกาแฟสดผ่านตู้อัตโนมัติได้ และเมื่อเขาไปวางตู้ที่ไหนก็ยังมีคนกด มีคนต่อคิว และอยากให้ตู้มาวางใกล้ ๆ ที่ทำงาน เมื่อเราเลือกถูก ผลลัพธ์ย่อมดีอย่างไม่ต้องสงสัยอะไรเลยครับ
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาแบบนี้ก็ยังอันตรายสำหรับมือใหม่ เพราะเราอาจแยกไม่ออกว่า หุ้นตัวดีนี้จริง หรือดีหลอก ?
ผมคิดว่า เราควรหมั่นทบทวนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรประมาท ไม่ควร all in ในหุ้นตัวเดียว หรือสินทรัพย์ตัวเดียว เช่น เหรียญคริปโท แต่ควรใช้ความระมัดระวังมองหาโอกาสตลอดเวลา
แล้วเวลาแบบนี้แหละจะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ ... ได้คำตอบกันหรือยังครับ !?