#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

หุ้นขนส่ง Big Cap ...Laggard

โดย อธิป กีรติพิชญ์
เผยแพร่:
223 views

สองหุ้น "เปิดเมือง" ตัวใหญ่ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันมากในช่วงนี้
คือ หุ้นขนส่งมวลชน BEM และ BTS
ปูเรื่องสั้นๆ
-> BEM บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) คือ กิจการทางด่วนเส้นในเมือง และ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บวก สายสีม่วง
-> BTS บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) คือ กิจการรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว (กำลังสร้างสายสีเหลืองและสีชมพู) และยังทำตัวเป็น Holding Company เป็นแม่ VGI ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน บัตร Rabbit Finance ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ U city และยังถือหุ้นกิจการอื่นๆอีกเยอะแยะเลย  


หุ้นทั้งสองตัว โดนโควิด เข้ามา Hit อย่างหนัก มาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว
ถึงวันนี้...ถ้าไม่มีปัจจัยพิเศษใดๆ .... หุ้นทั้ง 2 ควรพร้อมกลับมาสร้างกําไรที่น่าพอใจอีกครั้ง หลังผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิดที่ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารรถไฟฟ้าลดลง และปริมาณรถวิ่งบนทางด่วนลดลง อย่างมีนัยสําคัญ
ปัญหาคือ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หุ้นทั้ง 2 ตัวดวงยังตก เพราะต่างก็มีประเด็นค้างคา (overhang) เพิ่มเติมเป็นของตัวเอง


BEM… เจอโรคเลื่อนประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่หมายมั่นปั้นมือมานาน โครงการของรฟม. เป็นโปรเจคต์ใต้ดิน ถิ่นของ BEM และถ้าใครเคยขึ้นลง MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม จะเห็นวงกลมเตรียมขุดเป็นทางใต้ดินของสายสีส้มมาเนิ่นนานแล้ว และโครงการนี้ถ้าไม่เจอโรคเลื่อนก็ควรจะประมูลเสร็จตั้งแต่ปีที่แล้ว


BTS…เจอปัญหาที่ใหญ่กว่า คือความพยายามต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นหลัก (สายสุขุมวิทและสีลม) มีการเจรจาเรื่องหนี้สินกับกทม. และทางกทม.ตอนนั้น ก็ให้การสนับสนุนวิธีการต่อสัมปทาน 30 ปีเพื่อการแลกหนี้ก้อนใหญ่ แต่ติดปัญหาในขั้นตอนเข้าครม.นี่แหละจร้า เลยยังไม่ได้ต่อสัญญาสัมปทานซักที

 


มาถึงวันนี้ ดูเหมือน BEM จะไปไหว้พระแก้ชงมาแล้ว โดยเฉพาะเดือนพ.ค.
-> ปริมาณรถบนทางด่วนฟื้นเร็วมาก
-> ปริมาณผู้โดยสารสายสีน้ำเงินก็ฟื้นเร็วมาก
-> สายสีเหลืองที่กำลังจะ soft launch ปลายปีนี้ คือสาย feeder ที่จะพาลูกค้ามาเติมให้ BEM ที่สถานี MRT ลาดพร้าว
-> อีกไม่กี่สัปดาห์ กระบวนการประมูลสายสีส้ม รฟม.จะเริ่มเดินหน้า
-> และจะมีโครงการใหม่ สายสีม่วงใต้ ตามมาอีก
ราคาหุ้น BEM ก็ตอบสนองชัดเจนในเดือนพ.ค. ตามรูปเส้นสีฟ้า
เป็นหนึ่งในตัวแทนหุ้นเปิดเมือง ที่แทบทุกโบรคแนะนำในช่วงนี้
สวนทางกับราคาหุ้น BTS ที่นอกจากไม่ขึ้นตาม BEM แล้ว ยังลงจากแรงกดดันเรื่องสัญญาสัมปทาน ที่กทม.ในสมัยของผู้ว่าท่านใหม่ จะเป็นแบบไหนยังไม่รู้
ปัจจัยความไม่แน่นอนตรงนี้ถือว่ามีนัยยะ


คหสต. เชื่อว่า
1. หุ้นรถไฟฟ้าทั้งสองตัว มีอนาคตอยู่ ทั้งการฟื้นตัวไปสู่จุด Pre-Covid และการเปิดโครงการใหม่ๆ
2. หุ้นทั้งสองตัวนี้ ยังต่ำกว่า(laggard)จุดก่อนโควิดอย่างมีนัยสำคัญ การฟื้นตัวไปสูจุดก่อนเกิดโควิด เป็นเส้นทางแรกที่ผลประกอบการควรไปถึงให้ได้ ซึ่งต้องรอนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ใช้เวลาเหมือนกัน
3. ปัจจัยเรื่องต่อสัมปทานของ BTS ก็คงจะใช้เวลาเช่นกัน ดูอย่างกรณีต่อสัมปทานทางด่วน BEM ตอนนั้น พยายามต่อสัญญาล่วงหน้ามานาน สุดท้ายก็ได้ต่อปีที่หมดสัมปทานเลย
นักลงทุนที่ถือหุ้นอยู่ก็ต้องเข้าใจทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ของหุ้นด้วย
ไม่งั้นจะเครียดเกินไป โดยไม่จำเป็นนะ
แค่ตามข่าวในโซเชียลทุกวันนี้ ก็เครียดจะแย่แล้วจร้า


เจ้าของหนังสือ Best Seller “ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ” และยังเป็นวิทยากรคอร์ส “ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานแบบ Value/Growth Investor” ด้วยประสบการณ์ในตลาดทุนกว่า 17 ปี และประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์ บวกกับความเป็นคนอารมณ์ขัน  ทำให้คุณนิ้วโป้งสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก อย่างการลงทุน ให้เข้าใจได้ง่าย และยังใช้ภาษา ลีลาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ มากมาย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง