เริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับหุ้นน้องใหม่ที่กำลังจะเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ในชื่อ เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC นั่นเอง
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ได้มีรายละเอียดมานัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
... ราคาเสนอขายต่อประชาชนครั้งแรก
... รายละเอียดวัตถุประสงค์ในการใช้เงิน
... มูลค่าการระดมทุน
... จะเข้ามาซื้อขายเมื่อไร
แต่ด้วยความที่เป็นลูกของ SCC และกำลังจะเข้ามาระดมทุน จึงมีความน่าสนใจที่อยากจะเล่าให้เพื่อนๆนักลงทุนฟังแบบนี้ครับ
SCGC เป็นกลุ่มธุรกิจเคมิคอลส์ของเครือ SCC ที่ทำธุรกิจมาแล้วกว่า 40 ปี โดยประกอบไปด้วย 3 กลุ่มธุรกิจหลักคือ
1. สายธุรกิจโอเลฟินส์ ประเทศไทย
2. สายธุรกิจไวนิล
3. ธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น โอเลฟินส์ในต่างประเทศ ธุรกิจรีไซเคิล ธุรกิจบริการและโซลูชัน
SCGC เป็นผู้เล่นหลักในตลาดเคมีภัณฑ์ระดับภูมิภาค จำหน่ายสินค้ากว่า 120 ประเทศทั่วโลก
จุดแข็งของ SCGC คือ มีฐานการผลิตใน 3 ประเทศขนาดใหญ่ คือ ไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 440 ล้านคน (2 ใน 3 ของภูมิภาคอาเซียน) โดยในประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตหลัก
ส่วนอินโดนีเซีย มีการลงทุนผ่านการถือหุ้น 30 % ใน Chandra Asri Petrochemical Tbk (CAP)
และในเวียดนาม กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการ LSP คอมเพล็กซ์ ปิโตรเคมี (Long Son Petrochemical Complex)
ถามว่าความน่าสนใจของ SCGC เท่าที่มีข้อมูลยื่นผ่านตลาดหลักทรัพย์มีอะไรที่น่าสนใจ และนักลงทุนควรติดตามกันต่อ คืออะไรบ้าง
1. ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง และกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ในภูมิภาคอาเซียน
...ธุรกิจโอเลฟินส์ในประเทศไทย ครอบคลุมทั้งธุรกิจปลายน้ำ และต้นน้ำ รวมถึงการมีผลิตภัณฑ์พลอยได้อื่นๆ
จากข้อมูลของ NexantECA กล่าวว่า SCGC เป็นผู้ผลิตโอเลฟินส์ (ต้นน้ำ) รายใหญ่เป็นอันดับสามในภูมิภาคอาเซียน และเป็นผู้ผลิตพอลิโอเลฟินส์ (ปลายน้ำ) รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน
และถ้าบริษัทได้การผลิตจากเวียดนามโครงการ LSP เชื่อว่าจะกลายเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียนทั้งโอเลฟินส์ และพอลิโอเลฟินส์
... ธุรกิจไวนิล แบ่งธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ ธุรกิจเม็ดพีวีซี (PVC Resin) และ พีวีซี คอมพาวนด์ (PVC compound) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง
จากข้อมูลของ NexantECA กล่าวว่า SCGC เป็นผู้ผลิต PVC รายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้ง SCGC เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวนิล (vinyl) เพียงไม่กี่รายทั่วโลกที่มีการขยายการผลิตไปยังธุรกิจปลายน้ำ (Downward integration) เพื่อผลิตสินค้าสำเร็จรูปจาก PVC ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
... ธุรกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโอเลฟินส์ในต่างประเทศ ธุรกิจรีไซเคิล ธุรกิจบริการและโซลูชัน มีการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (SCGC Green Polymer framework) ที่สามารถนำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งนำมารีไซเคิลเพื่อนำกลับไปใช้ใหม่
2. สัดส่วนรายได้ของธุรกิจหลัก ในปี 2564
ธุรกิจโอเลฟินส์ในประเทศไทย คิดเป็นสัดส่วน 79%
ธุรกิจไวนิล คิดเป็นสัดส่วน 20.9%
ธุรกิจอื่นๆ คิดเป็นสัดส่วน 4.3%
การตัดบัญชีระหว่างส่วนงาน คิดเป็นสัดส่วน -4.2%
*** อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจจะสงสัยว่า อะไรคือการตัดบัญชีระหว่างส่วนงาน
หมายความว่าธุรกิจสายโอเลฟินส์ และสายธุรกิจไวนิล มีผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีต้นน้ำถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสายธุรกิจไวนิลด้วย ทำให้เกิดรายการที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้าระหว่างสายธุรกิจทั้งสอง
3. สัดส่วนรายได้แบ่งตามภูมิภาค ในปี 2564
ประเทศไทย สัดส่วนรายได้ 52.1%
ประเทศเวียดนาม สัดส่วนรายได้ 8.4%
เอเชียใต้ สัดส่วนรายได้ 7.3% (ประกอบไปด้วยอินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกา และมัลดีฟส์)
ประเทศจีน สัดส่วนรายได้ 7%
ประเทศอินโดนีเซีย สัดส่วนรายได้ 6.3%
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สัดส่วนรายได้ 5.8% (ไม่รวมไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย)
เอเชียตะวันออก สัดส่วนรายได้ 3.6% (ไม่รวมจีน)
ภูมิภาคอื่นๆ สัดส่วนรายได้ 9.5% (ประกอบไปด้วยทวีปโอเชียเนีย ทวีปแอฟริกา ภูมิภาคตะวันออกกลาง ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปอเมริกาใต้ เป็นหลัก)
4. ผลประกอบการย้อนหลังของบริษัท
ในปี 2562 บริษัทมีรายได้ 17.76 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.59 หมื่นล้านบาท
ในปี 2563 บริษัทมีรายได้ 14.68 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.99 หมื่นล้านบาท
ในปี 2564 บริษัทมีรายได้ 23.83 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 3.28 หมื่นล้านบาท
5. บริษัทมีหนี้สินน้อย
จากผลประกอบการย้อนหลัง พบว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผุ้ถือหุ้นถือว่ายังน้อยมาก
ในปี 2562 บริษัทมีหนี้สินต่อส่วนของผุ้ถือหุ้น อยู่ที่ 0.5 เท่า
ในปี 2563 บริษัทมีหนี้สินต่อส่วนของผุ้ถือหุ้น อยู่ที่ 0.7 เท่า
ในปี 2564 บริษัทมีหนี้สินต่อส่วนของผุ้ถือหุ้น อยู่ที่ 1.0 เท่า
นี้ก็เป็น 5 ข้อความน่าสนใจของหุ้น SCGC ที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟังครับ ...
------------------------------------------------
Reference
ข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน