หลายๆครั้งเรามักจะได้ยินว่าหุ้นที่ "ปันผลเพิ่ม" คือหุ้นที่ดี
เพราะนักลงทุนจะได้รับเงินปันผลเพิ่มขึ้น
ซึ่งแนวคิดนี้ ก็อาจจะไม่จริงซะทีเดียว ...
ด้วย 2 เหตุผลด้วยกัน คือ
เหตุผลแรก : จ่ายปันผลมากขึ้น โอกาสที่บริษัทจะไปลงทุนเพิ่มก็น้อยลง
การจ่ายเงินปันผลที่มากขึ้น ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์ก็จริง
แต่โอกาสที่บริษัทจะนำเงินเหล่านั้นไปลงทุนเพิ่มเพื่อให้เกิดการเติบโตในอีกปลายปีข้างหน้าก็จะน้อยลง
หมายความว่า กำไรของบริษัทก็จะเติบโตช้าลง ตามไปด้วย
เหตุผลที่สอง : จ่ายมากเกินไป กระทบกับส่วนของผุ้ถือหุ้น (Equity)
การจ่ายเงินปันผลที่มากขึ้น อาจจะมาจาก 2 กรณี
กรณีแรก บริษัทมีรายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม จ่ายปันผลเพิ่ม
... กรณีนี้เป็นเรือ่งปกติ บ่งบอกว่าบริษัทมีทิศทางที่ดีขึ้น มูลค่าหุ้นควรจะสูงขึ้น ก็เลยจ่ายปันผลเพิ่มมากขึ้น
กรณีที่สอง บริษัทจ่ายเงินปันผลมากเกินไปจนไปดึงในส่วนของกำไรสะสมมาจ่าย
กรณีนี้ บริษัทอาจจะรายได้เท่าเดิม กำไรเท่าเดิม แต่จ่ายปันผลมากขึ้น
ถามว่าส่วนที่มากขึ้น มาจากไหน ?
คำตอบคือ "กำไรสะสม" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "Equity" ด้วยนั้นเอง
ประเด็นคือ การจ่ายเงินปันผลอกมามาก ย่อมทำให้ส่วน Equity ลดลง ทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนสูงขึ้น มักจะมีปัญหาต่างๆตามมา เช่น ความเสี่ยงในการเพิ่มทุน ความเสี่ยงในการลดอันดับเครดิต
ดังนั้น เวลาหุ้นที่มีการจ่ายปันผลเพิ่มมากขึ้น
ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป
สิ่งสำคัญ คือ นักลงทุนจำเป็นจะต้องเข้าใจด้วยว่าเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น มาจากอะไร ...