#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

Wage Price Spiral คือประเด็นที่น่ากังวลในประเทศไทย

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
108 views

หลายวันมานี้เราอาจจะได้ยินเรื่องของ การขอปรับขึ้นค่าแรง เนื่องมาจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น
จริงๆไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเมื่อสินค้าราคาสูงขึ้น ถ้าเรายังได้เงินเดือนเท่าเดิม กำลังซื้อจะลดลง เนื่องมาจากเงินเฟ้อ และค่าครองชีพที่สูงขึ้น

 

อย่างเช่นในสถานการณ์ปัจจุบัน ราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การปิดเมืองของประเทศจีน
ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ราคาพุ่งขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ถ้าเงินเดือนเท่าเดิมก็ยากที่จะดำรงชีพได้ในปัจจุบัน
ดังนั้น การปรับขึ้นค่าแรง คือทางออก
... แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าเรามีการปรับเพิ่มค่าแรง เจ้าของกิจการก็สามารถส่งผ่านต้นทุนเหล่านี้ให้ราคาสินค้าสูงขึ้นด้วย
เมื่อสินค้าราคาสูงขึ้น คนก็อำนาจซื้อลดลง ขอปรับค่าแรง เจ้าของปรับราคาสินค้าให้ยิ่งสูงขึ้นไปอีก
สิ่งเหล่านี้เราเรียกว่า Wage Price Spiral

Wage Price Spiral คือ การปรับขึ้นราคาสินค้า และการปรับขึ้นค่าแรง จะวนลูปจนเกิดเป็นวงจรเงินเฟ้อที่ยากจะแก้ไข ...

 

เมื่อไม่นานมานี้ ttb analytics แสดงความคิดเห็นว่า
ภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นจนนำไปสู่การเรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงนี้ถือว่ามีความน่ากังวล เนื่องจากมีความเสี่ยงที่สถานการณ์อาจลุกลามจนเกิดเป็นปัญหาเงินเฟ้อฝังลึก หรือ Wage Price Spiral  
โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs เพราะ มีความสามารถในการส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคไม่มากและมีอำนาจต่อรองน้อย หากธุรกิจกลุ่มนี้ต้องแบกรับต้นทุนค่าแรงเพิ่มเติมจากต้นทุนการผลิตต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นล่วงหน้าไปแล้ว ก็จะยิ่งมีความเปราะบางมากขึ้น


แล้วทางออกของประเทศไทยอยู่ตรงไหน ?
โดยปกติ เรื่องของเงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพพุ่ง เราจะรักษากำลังซื้อของผู้บริโภคได้ มาจากการช่วยเหลือของภาครัฐ 2 ข้อด้วยกัน คือ


1. การใช้นโยบายอุดหนุนราคาพลังงานและควบคุมราคาสินค้าจำเป็น แต่จุดอ่อน คือ งบประมาณที่มีจำกัด และสกัดได้ไม่นาน เมื่อเงินหมดราคาก็จะกลับไปเท่าเดิม เหมือนอย่างราคาน้ำมันดีเซลที่เราจะเห็นได้ในปัจจุบัน

 

2. การเพิ่มรายได้ การปรับเพิ่มค่าแรง แต่ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น ยังไงก็จะส่งผ่านต้นทุนให้กับผู้บริโภคอยู่ดี

SCB EIC แสดงความคิดเห็นว่า การเพิ่มรายได้ผ่านการอุดหนุนของภาครัฐน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด กล่าวคือเพิ่มค่าแรงแต่ให้ภาครัฐเข้ามาแบกรับบางส่วน
แต่จะให้ทุกกลุ่มไม่ได้ เพราะแรงงานในประเทศไทยมีมหาศาล
รัฐบาลอาจจะเลือกเจาะจงช่วยเหลือเฉพาะบางกลุ่ม เช่น เจาะจงไปที่แรงงานที่รับค่าจ้างขั้นต่ำและอยู่ในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น ซึ่งจะไม่เพิ่มต้นทุนให้ผู้ประกอบการ และไม่ทำให้อัตราการจ้างงานลดลง


อย่างไรก็ตาม การพยายามแก้ไขเรื่องของ Wage Price Spiral ในทางทฤษฏีแล้วเราสามารถแก้ไขได้ด้วย 3 วิธี คือ


1. ให้แรงงานทำงานมากขึ้น เช่นการเพิ่มค่าแรง 10% หมายถึงการเพิ่ม Productivity เพิ่มอีก 10% ทำแบบนี้ผู้ประกอบการก็จะไม่ส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภค เพราะแรงงานทำงานมากขึ้นนั้นเอง

 

2. การใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งธนาคารกลางแต่ละประเทศสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หรือการอัดฉีดเงินให้กับบริษัทขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการลงทุน โดยเสนอเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ


อย่างไรก็ตาม วิธีนี้เคยทำมาแล้วในอเมริกาช่วงกลางทศวรรษที่ 1970 ทำให้เกิดวิกฤตการปล่อยกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 และเกิดเป็นปัญหาเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในเวลาต่อมา

 

3. การรอคอย โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เงินเฟ้อก็จะปรับลดลงได้เองตามกลไกของตลาด


ถือเป็นประเด็นทางเศรษฐกิจไม่ใช่แค่ประเทศไทยอย่างเดียว แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นกันทั่วโลก
ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับภาครัฐ และธนาคารกลางของแต่ละประเทศแล้วว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร

---------------------------------------
Reference
THE STANDARD WEALTH

economicshelp.org

www.investopedia.com


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง