😀 😉
ห่างหายไปนานสำหรับธุรกิจ "สื่อโฆษณา" อย่าง PLANB ที่ไม่ได้น่าสนใจสักเท่าไรนักในช่วงปีวิกฤตโควิด
ถ้านักลงทุนสังเกตราคาหุ้น จะเห็นว่าราคาสร้างฐานราคาหุ้นแถวๆ 8-9 บาท ก่อนจะเกิดโควิด
แต่พอเกิดโควิดทำให้ราคาหุ้นรูดลงมาแถวๆ 2 บาท สอดคล้องกับผลประกอบการที่ลดลงอย่างมาก ...
ในปี 2561 บริษัทมีรายได้ 4.03 พันล้านบาท กำไสุทธิ 642 ล้านบาท
ในปี 2562 บริษัทมีรายได้ 4.91 พันล้านบาท กำไสุทธิ 743 ล้านบาท
ในปี 2563 บริษัทมีรายได้ 3.76 พันล้านบาท กำไสุทธิ 140 ล้านบาท
ในปี 2566 บริษัทมีรายได้ 4.60 พันล้านบาท กำไสุทธิ 64 ล้านบาท
แต่เมื่อปีโควิดเริ่มเข้าสู่สถานการณ์ปกติ คนเริ่มออกมาใช้ชีวิตมากขึ้น ประเทศเริ่มกลับมาเปิดได้อีกครั้ง
ธุรกิจสื่อโฆษณาก็มีแนวโน้มที่จะกลับมาได้ รวมถึงหุ้น PLANB ก็น่าจะกลับมาอยู่ใน Spotlight ในสายตาของนักลงทุนด้วย
ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส วิเคราะห์ว่าแนวโน้มผลประกอบการของปี 2565 จะโดดเด่นมากด้วยปัจจัยหลัก 3 ปัจจัย คือ
1. รายได้จากธุรกิจสื่อของ AQUA ที่จะรับรู้เข้ามาเต็มไตรมาสในไตรมาส 2 ของปีนี้ จะส่งผลบวกต่อ PLANB อย่างมีนัยสำคัญราวๆ 20%
2. ธุรกิจสื่อโฆษณาอยู่ในฐานที่ต่ำในปี 2564 ซึ่งการเปิดประเทศ กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมา ผู้คนใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น จะเป็นการเพิ่มอัตราการใช้งานของสื่อสู่ระดับปกติราวๆ 60-70% เมื่อรวมกับฐานต่ำในปี 2564 จะเห็นว่ากำไรจะเติบโตได้สูงมาก
3. บริษัทรับรู้รายได้จากการบริหารสิทธิ์กีฬา "เอเชียนเกมส์" ในไตรมาส 3 ปีนี้ที่จะจัดขึ้นในจีน ส่งผลให้ PLANB มีรายได้เพิ่มราวๆ 200-250 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิราวๆ 40-50% (ตั้งสมมุติฐานว่า Gross Margin จะอยู่ที่ 20%)
แล้วผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2565 ละ ?
ฝ่ายวิจัยคาดว่า "อ่อนตัว" ตามฤดูกาล
โดยคาดว่าบริษัทจะมีกำไรอยู่ที่ 80 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ
แต่ฝ่ายวิจัยมีมุมมองว่าอยากให้นักลงทุนควรให้น้ำหนักกับผลประกอบการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมากกว่า
โดยภาพรวมแล้ว ภาพสั้นๆของ PLANB ในไตรมาสนี้อาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก
แต่ถ้ามองภาพยาวๆทั้งปี ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มที่น่าสนใจครับ
... นักลงทุนอาจจะต้องมองยาวกันสักหน่อย
---------------------------------------
Reference