ธุรกิจ Healthcare ถือเป็นภาคธุรกิจที่มีศักยภาพและน่าจับตา จากแนวโน้มที่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ วิถีชีวิตผู้คนในเมืองใหญ่เปลี่ยนแปลง รวมถึงการเกิดขึ้นของไวรัสโควิด-19 และในอนาคตที่มีโอกาสจะเกิดโรคระบาดใหม่ๆ ส่งผลให้คนส่วนใหญ่หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นแรงกระตุ้นต่อการเติบโตของธุรกิจกิจที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน 

 

งานวิจัยธนาคารทิสโก้ ระบุว่า กลุ่มธุรกิจนวัตกรรมการแพทย์ (Innovative Healthcare) เป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ในปัจจุบัน เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว สอดคล้องกับสังคมสูงวัย และพฤติกรรมการดำเนินชีวิตรูปแบบใหม่ที่เน้นดูแลสุขภาพมากขึ้น 

 

โดยเฉพาะนวัตกรรมด้านไบโอเทค (Biotechnology) ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังทั่วโลกยังต้องอยู่ร่วมกับไวรัสโควิด-19 ซึ่งสามารถกลายพันธุ์ได้ต่อเนื่อง เพราะธุรกิจกลุ่มนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ใช้นวัตกรรมทางชีวภาพใหม่ ๆ มาช่วยป้องกันและรักษา ทำให้ผลประกอบการธุรกิจกลุ่มดังกล่าวจะเติบโตได้ต่อเนื่องเช่นกัน ตามค่าใช้จ่ายการในการดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาล

 

งานวิจัยธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า กลุ่มธุรกิจอาหารเสริมเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน สวนกระแสธุกิจอื่น เพราะโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เพื่้อสร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยมูลค่าตลาดปัจจุบันอยู่ที่ราว 2 - 2.5 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 7-10% ในช่วง 5 - 10 ปีข้างหน้า 

 

เทรนด์การเติบโตดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในกลุ่มธุรกิจ Healthcare ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจขนานใหญ่ 

 

WINMED ลุย New S-Curve นวัตกรรมการแพทย์

 

    บมจ.วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) ขยายธุรกิจกลุ่ม New S-Curve เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว จากเดิมที่ดำเนินธุรกิจหลักจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่ล่าสุดรุกธุรกิจใหม่ 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 

    1. Lab COVID-19: ห้องปฏิบัติการมาตรฐานการตรวจยืนยันระดับโมเลกุลหาสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ โดยระบบ RT-PCR และ TMA (Transcription Mediated Amplification) เป็นคลินิกเทคนิคการแพทย์แห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการแบบสองระบบ 

พร้อมทั้งให้บริการตรวจแบบ Fast Track รู้ผลตรวจเร็วภายใน 3 ชม. และหน่วยบริการตรวจคัดกรองโควิด-19 นอกสถานที่ โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/64 และได้ขยายบริการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ระบบ Drive Thru โดยบุคลากรทางการแพทย์เข้ามาเพิ่มอีกด้วยในไตรมาส 1/65

    2. HPV & STDs Self-Collect: กลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพสตรี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น โครงการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตรวจหาเชื้อ HPV เตรียมออกผลิตภัณฑ์ชุดเก็บเซลล์จากช่องคลอดด้วยตนเอง เพื่อส่งตรวจหาเชื้อไวรัส HPV (HPV Self-collect) เพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ช่วยลดอัตราการเสียชีวิต 

    พร้อมเร่งเปิดให้บริการ ห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัส  HPV ผ่านชุดเก็บเซลล์จากช่องคลอดด้วยตนเอง (Self-Collect) ซึ่งเปิดให้บริการแล้วในไตรมาส 1/65 ตั้งเป้ามีผู้เข้าใช้บริการในปี 65 ประมาณ 50,000 คน

    3. Mobile Blood Collect: บริการศูนย์บริจาคโลหิต (แบบแยกส่วนประกอบโลหิต) แบบเคลื่อนที่ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนโลหิต โดยร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศ คาดเริ่มให้บริการภายในไตรมาส 2/65

    4. Miltenyi Biotec. Cell Processing Factory: เพิ่มการเข้าถึงทางเลือกในการรักษามะเร็งด้วยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัด โดยสร้างห้องปฏิบัติการด้านการเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์ เพื่อการรักษาด้วยวิธีเซลล์-ภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งร่วมมือกับสถาบันการแพทย์ชั้นนำ คาดเริ่มดำเนินการภายในไตรมาส 3/65

    5. Health Innovation Product: ร่วมกับหน่วยงานวิจัย-วิทยาศาสตร์ของรัฐ เพื่อพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมเพื่อใช้ในการขับไล่ยุงและแมลงดูดเลือด คาดว่าจะเริ่มดำเนินการภายในไตรมาส 4/65 

    ทั้งนี้ WINMED ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ New S-Curve เป็น 27% ในปีนี้ จากปีก่อนที่เกือบ 100% เป็นรายได้จากธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์

 

BH รุกนวัตกรรมการแพทย์ "Smart Helthcare 5.0"

 

     บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ประกาศแผนเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ "Smart Healthcare 5.0" ครอบคลุมทุกมิติ เพราะปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยคิดเป็น 20% ของจำนวนประชากร โดยในอีก 10 ปีข้างหน้าคาดการณ์ว่าสัดส่วนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นอีก 10% ขณะที่เทรนด์เรื่องของดิจิทัลหรือเฮลท์เทคคืออีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงในปีนี้ 

ทำให้นับจากนี้จะให้ความสำคัญกับสองส่วนนี้ควบคู่กัน ผ่านจุดแข็งเรื่องของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ศูนย์เฉพาะทาง และนวัตกรรมการรักษาใหม่ ๆ โดยยังคงให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของผู้ป่วย อีกทั้ง ยังยกระดับการให้บริการเพื่อส่งมอบการดูแลรักษาสุขภาพระยะยาว ในทุกช่วงอายุเพื่อให้คนในสังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประกอบด้วย 

    1.Critical care: การรักษาโรควิกฤตที่พร้อมดูแลผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย 

    2.Complicated care: รักษาโรคซับซ้อนที่กี่ยวเนื่องกับหลายอวัยวะหรือเป็นโรคยากต่อการวินิจฉัย 

    3.Collaboration of Expertise: สร้างการทำงานร่วมกันของทีมแพทย์ผู้ชำนาญการในหลากหลายสาขาและสหสาขาวิชาชีพ เพื่อร่วมกันให้การบริบาลผู้ป่วยเพื่อผลลัพธ์ของการรักษาที่ดีที่สุด 

    4.Wellness and Prevention: การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ทันสมัย

  

นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการภายใต้โมเดลธุรกิจ Bumrungrad Health Network เพื่อขยายการให้บริการทางการแพทย์ด้วยมาตรฐานบำรุงราษฎร์ไปยังเซ็กเมนต์ใหม่ๆ ของโรงพยาบาลพันธมิตร อาทิ ศูนย์กระดูกสันหลังและศูนย์ข้อ ร่วมกับโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ / ศูนย์กระดูกสันหลัง ร่วมกับโรงพยาบาลนครธน / ศูนย์มะเร็งฮอไรซัน ร่วมกับโรงพยาบาลพิษณุเวช จังหวัดพิษณุโลก 

    

ล่าสุดได้เปิดบริการด้านพันธุศาสตร์ เพื่อยกระดับการตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรม ร่วมกับสวัสดีราษฎร์คลินิกเวชกรรม จังหวัดนครราชสีมา เพื่อขยายโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ที่หลากหลายขึ้น

 

APCO มุ่งเป็น "Healthcare Biotech" ของไทย

 

     ทีมวิจัย "Operation BIM" ของ บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) ระบุว่า ตั้งแต่ปี 64 ประเทศไทยเข้าสู่ “สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์” (อายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ของประชากร) รวมถึงการต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโรคระบาดโควิด-19 ต่อไป ส่งผลให้ประชากรหันมาสนใจการสร้างเสริมสุขภาพและดูแลสุขภาพด้วยตนเองกันมากขึ้น

 

เพราะนอกจากโควิด-19 อัตราการเกิดโรคเรื้อรังที่ไม่ติดต่อ (กลุ่มโรค NCDs เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ และหลอดเลือด) รวมถึงโรคมะเร็งไม่ได้ลดลงเลย 

 

"Operation BIM" จึงได้ศึกษาวิจัยและพัฒนานวัตกรรม “ภูมิคุ้มกันบำบัด” ซึ่งมีผลการวิจัยที่ชัดเจนและได้ประยุกต์ใช้แล้วในการดูแลสร้างเสริมสุขภาพให้กับคนไทยที่มีปัญหาสุขภาพจากโรคร้าย เช่น มะเร็ง โรคเอดส์ ให้กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรง 

 

ทั้งนี้ได้พัฒนาต่อยอดเป็นนวัตกรรม “วัฒนชีวา” ช่วยเสริมสร้างให้ผู้ที่มีสุขภาพปกติมีร่างกายที่อ่อนเยาว์มากขึ้นในระดับโครโมโซม เพิ่มความยาวเทโลเมียร์ อายุเซลล์หรือร่างกายย้อนวัยได้เฉลี่ยถึง 5.8 ปี ใน 8 สัปดาห์ ควบคู่กับการเพิ่มจำนวน เซลล์ T พิฆาต (Killer T Cell) ส่งผลให้ลดการติดเชื้อต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อไวรัส และกำจัดเซลล์มะเร็งได้ในทุกระยะ พร้อมกับป้องกันการเกิดมะเร็งใหม่ได้อีกในผู้ป่วยที่เคยรักษามะเร็งหายไปแล้ว

 

ขณะเดียวกันนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด จะช่วยให้ผู้บริโภคมีคุณภาพชีวิตและภูมิคุ้มกันที่ดี เมื่อติดเชื้อโควิด-19 จะไม่มีอาการรุนแรงหรืออาจจะไม่แสดงอาการ และช่วยให้มีการฟื้นฟูจากอาการ Long COVID-19 ของผู้ติดเชื้อด้วย 

 

APCO ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำด้าน "Healthcare Biotech" ของไทย ที่พัฒนานวัตกรรมในการดูแลสุขภาพอย่างแท้จริง สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุดสามารถใช้เทคโนโลยีในการสกัดปรับปรุงสูตรภูมิคุ้มกันบำบัด ให้มี "Killer T Cell" เพิ่มขึ้นในระดับที่เหมาะในการใช้เป็นภูมิคุ้มกันบำบัดโรคแต่ละชนิด โดยขยายธุรกิจ ดังต่อไปนี้

 

    1.จัดตั้ง "KILLER T CELL CO., LTD." เพื่อให้ผู้ที่สนใจนำนวัตกรรมนี้ไปใช้ใน Wellness Center จัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อใช้ในการป้องกันและรักษาการติดเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และอาการมะเร็งทุกระยะ

    2.จัดตั้งศูนย์ "Killer T Cell Therapy for HIV" ร่วมกับสถาบันทางการแพทย์ในประเทศไทย บริการให้ผู้ติดเชื้อจากทั่วโลกเข้ามารับบริการในประเทศไทย หรือ ใช้ระบบสื่อสารออนไลน์ Remote Monitoring ในลักษณะเดียวกับ Telemedicine ให้บริการกับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามารับบริการในประเทศไทย  โดยมีการลงนามใน MOU ร่วมกับ "Eco Green Concept" ให้นำผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เข้ารับการรักษาในศูนย์นี้ประมาณเดือนละ 200 คน โดยจะเริ่มในไตรมาส 2/65

    3.จัดตั้ง "KILLER T CELL FOR PETS CO., LTD." ร่วมกับสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อใช้นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดด้วย "Killer T Cell" รักษาสัตว์เลี้ยงที่เป็นมะเร็ง ติดเชื้อรา แบคทีเรีย เอดส์และไวรัสอื่นๆ ที่ยังไม่มียารักษา จัดจำหน่ายให้แพร่หลายทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ (ไต้หวันและอเมริกา) 

 

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและบำรุงสุขภาพอีกหลากหลายชนิดครอบคลุมหลายกลุ่มผู้บริโภค โดยในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80%

 

สรุปแล้ว เฮลแคร์ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าภาพในอดีต หุ้นกลุ่มการแพทย์มักจะถูกมองว่าเป็น "Defensive Stock" มีความผันผวนต่ำ แลกกับธุรกิจเติบโตได้ช้ากว่าเมื่อเทียบกับธุรกิจกลุ่มอื่น แต่เมื่อมีการนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วย ก็ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้กลายเป็น “เสือติดปีก” ที่พร้อมจะยกระดับผลตอบแทนแก่นักลงทุนขึ้นมาทันที