#แนวคิดด้านการลงทุน

ยาว สั้น อะไรสำคัญในปี 59

โดย พุฒิมาส วุฒิวณิชย์
เผยแพร่:
177 views

 

สรุปใจความงานเสวนาฟรี

2morrow fair 2015 (วันที่ 1)

17-20 ธ.ค.

“ยาว สั้น อะไรสำคัญในปี 59” 

โดย แพ้ท ภาววิทย์ กลิ่นประทุม และ หยง ธำรงชัย เอกอมรวงศ์

 

 

นักลงทุนในตลาดควรหาจริตการลงทุนของตัวเองให้เจอ... ว่าควรเล่นยาว หรือ สั้น

 

หลายคนมีความรู้ ผ่านการเรียนสัมมนา ศึกษาหุ้นมาบ้าง แต่ยังไม่เข้าใจตัวเอง เลยทำให้สับสนว่า จะลงทุนหรือ เก็งกำไร เพราะการลงทุน และการเก็งกำไร มีผลลัพท์ที่ต่างกัน และใช้วิธีการต่างกัน 

 

การเก็งกำไร

 

ข้อดี ของการลงทุนระยะสั้นคือ ไม่ต้องติดหุ้น สามารถคัดลอส แต่มีข้อเสียคือ ไม่สามารถร่ำรวยได้

 

หลักการของคุณหยงคือ มองว่าการเก็งกำไรเพื่อสร้างกระแสเงินสด(cash flow) สามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองจากหุ้นได้เรื่อยๆ แม้ว่าตลาดเป็นขาลงก็สามารถเก็งกำไรได้(ซื้อหุ้นแบบเล่นรีบาวน์) แต่เป็นเพียงกำไรคำเล็กๆ แต่สุดท้ายคนเราพอมีเงินแล้วก็ต้องรู้จักนำมาลงทุนระยะยาว ก็จะนำเงินมาลงทุนในหุ้นพื้นฐาน(สร้าง wealth)

 

การเก็งกำไรระยะสั้น ไม่ได้สนใจคุณภาพของกิจการนัก เพราะซื้อแล้ว เด๋วก็ขาย เรามองกราฟเป็นหลัก และตีเส้นแนวรับ แนวต้าน เมื่อตลาดออกข้าง (sideway) นักเก็งกำไรไม่ควรเข้าไปซื้อขายช่วงนี้...ใครเข้าไปเล่นก็ขาดทุน ควรรอจนกว่าจะเกิดเทรนว่าราคาหุ้นจะขึ้นหรือลง

 

 

การลงทุน

 

ข้อดีของการลงทุนระยะยาวคือ สามารถสร้างความมั่งคั่งได้ อาจได้หุ้นที่ขึ้น สามเท่า 

แต่ในช่วงเวลาที่ตลาดเป็นขาลง ไม่สามารถทำกำไรได้ ต้องนั่งรออย่างเดียว 

 

ซื้อหุ้นเหมือนซื้อกิจการ หรืออาจมองว่าหุ้นเป็นเหมือนกับการลงทุนในที่ดิน นักลงทุนและเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ มีวิสัยทัศน์แบบมองไกล ถือหุ้นยาว ยิ่งมองยาวยิ่งรวย คนยิ่งมองสั้น คิดเล่นหุ้นรายวัน มักได้กำไรเล็กๆ รวยยาก 

 

คนที่อยากได้กำไรเร็วมักเล่นหุ้นปั่น และติดดอย หมายความว่าคนพวกนี้ซื้อตอนข่าวดีสุดๆ หลงเชื่อข่าวดี

 

ในช่วงเวลาที่ตลาดเป็นขาลง มีข่าวร้ายมากๆ นักลงทุนที่ประสบการณ์น้อยในระยะแรก อาจตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่ม ตามหลักการที่เรียนมา แต่พอถึงจุดนึงที่หุ้นลงไปเรื่อยๆ จะเริ่มเสียความมั่นใจจากการขาดทุนลึกของพอร์ต และตัดสินใจขายขาดทุนในที่สุด หลังจากนั้นหุ้นมักจบรอบขาลง 

 

ดังนั้นจิตวิทยาการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ จำไว้ว่าข่าวร้ายเป็นเรื่องดีสำหรับนักลงทุน และข่าวดีเป็นสิ่งน่ากลัว การทำตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่จะเป็นแต้มต่อสำหรับนักลงทุน (ได้ซื้อของถูก ขายแพง) แต่ต้องทำการบ้านวิเคราะห์พื้นฐานมาอย่างดีซะก่อน

 

อย่างไรก็ดีต้องเข้าใจว่า ต่อให้ทำการบ้านวิเคราะห์พื้นฐานมาดีซักแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไร้ความเสี่ยง แม้ปรมาจารย์อย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ยังมีโอกาสพลาดได้ (และก็เคยพลาดมาแล้ว) แต่การทำการบ้านมาอย่างดีจะช่วยเพิ่มโอกาสของการซื้อหุ้นให้ประสบความสำเร็จสูงกว่าโอกาสพลาดมาก

 

การหาหุ้นสำหรับซื้อยามตลาดเป็นข่าวร้าย ต้องเลือกกิจการประเภทที่ประเทศนี้ขาดบริษัทนี้ไม่ได้เช่น หุ้น big cap วิเคราะห์สภาพกิจการ และงบการเงิน เมื่อได้หุ้นที่ดีแล้ว เราหาจังหวะซื้อด้วยการดูกราฟ RSI ประกอบ 

(ขอขอบคุณ คุณ เป๊ก Single Trader สำหรับสรุป)

 

 

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโปรแกรมที่น่าสนใจ

พบกัน 17-20 ธ.ค. 

เข้าชมฟรี ลงทะเบียนหน้างาน

ณ S2M Investor Club ชั้น 17 และ ชั้น 19

2morrow fair 2015 

http://www.stock2morrow.com/course/freeseminar.php

 

 

 


ผู้ก่อตั้งแฟนเพจ  Single Trader  เน้นให้ความรู้ด้านการลงทุนแก่นักลงทุนมือใหม่ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นเล่นหุ้นที่ยังไม่มีพื้นฐานหรือประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดหุ้น

Single Trader มีประสบการณ์การทำงานเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์

ปัจจุบัน ศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท ที่ Asian Insitute of Technology สาขา MBA และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์  จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง