สกุลเงินเยนยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ราว 128 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือ 26 บาทต่อ 100 เยน เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ออกมาตรการความคุมนโยบายทางการเงินอย่างเข้มข้น ประกอบกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐกับญี่ปุ่น มีช่วงทิ้งช่วงห่างมากขึ้น หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเทขายพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น แล้วเข้าซื้อดอลลาร์แทน
แม้เมื่อวันพุธ (20 เม.ย.) ที่ผ่านมาค่าเงินเยนฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจาก BOJ ประกาศเสนอซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีโดยไม่จำกัดจำนวนด้วยอัตราผลตอบแทนคงที่ 0.25%
นายสันจายา ปันท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการเอเชียแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า การอ่อนค่าของเงินเยนในช่วงที่ผ่านมานั้น สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของตลาด และไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ BOJ เปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ (Ultra-low interest rates)
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ญี่ปุ่นอาจจะใช้มาตรการสกัดการอ่อนค่าของเงินเยนซึ่งอาจรวมถึงการเข้าซื้อเยน, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรืออาจปรับเปลี่ยนสัญญาณชี้นำด้านนโยบายการเงินในวันข้างหน้า
แม้ค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 20 ปี แต่กลับไม่ได้ส่งผลเสียที่ร้ายแรงกับเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยมีเพียงภาคครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งการที่อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นที่อยู่ในระดับที่ต่ำ จึงไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเปลี่ยนมาใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดแต่อย่างใด
เบรนแดน แมคเคนนา นักกลยุทธ์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากบริษัทหลักทรัพย์เวลล์ส ฟาร์โก (Wells Fargo) มองว่า เงินเยนของญี่ปุ่นเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอาจอ่อนค่าต่อไป หากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางสหรัฐยังคงแตกต่างกัน พร้อมทั้งมองว่า เงินเยนจะแตะ 130 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐอย่างแน่นอน และภายใต้สมมติที่ว่า ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงยึดมั่นในมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป เงินเยนอาจอ่อนค่าแตะระดับ 135 เยนต่อดอลลาร์ ในไม่ช้า
นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นกล่าวว่า ตนเองและนางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐเห็นชอบในการหารือกันอย่างใกล้ชิดถึงเรื่องความเคลื่อนไหวของสกุลเงิน หลังจากที่เงินเยนร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์
“ผมเคยกล่าวไว้ว่าสกุลเงินที่ผันผวนรุนแรงเป็นเรื่องไม่พึงปรารถนา แต่ความเคลื่อนไหวครั้งนี้รุนแรงจริง ๆ เราต้องคอยจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” นายซูซูกิกล่าวในงานแถลงข่าว หลังเดินทางไปพบปะกับนางเยลเลนที่กรุงวอชิงตัน
การอ่อนค่าลงของเงินเยนเป็นผลดีกับผู้ส่งออกของญี่ปุ่น เนื่องจากช่วยให้ได้กำไรจากต่างประเทศมากขึ้นเมื่อแลกเงินดอลลาร์กลับเป็นเงินเยน อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาประกอบกับราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ที่พุ่งสูงขึ้นแล้ว เรื่องนี้กลับกลายเป็นปัญหาสำหรับญี่ปุ่น เนื่องจากทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น และอาจทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง
ที่มา : Reporter Journey