บางคนบอกว่า ข่าวร้ายอุดมสมบูรณ์เหลือเกินพี่จ๋า น่ากลัวจริงๆ ไหนจะ
>>> ขึ้นดอกเบี้ย
>>> ลดสภาพคล่อง
>>> สงคราม
>>> ราคาน้ำมันแพง
>>> เงินเฟ้อ
>>> โควิด
เราจะล้างพอร์ตก่อน ดีกว่าไหม ..
อันนี้ไม่มีคำตอบแบบสูตรสำเร็จนะ
อยู่ที่มุมมองของนักลงทุนแต่ละคน
มองแง่ร้ายก็อาจจะออกจากตลาด มองแง่ดีก็อาจจะถือๆ ถัวๆ
ทุกแอคชั่นที่เราเลือก มันจะส่งผลต่อความมั่งคั่งของเราแน่นอน
การเลือกถือเงินสดทั้งหมด ต่อให้ฝากแบงค์ดอกสูง ก็ไม่เกิน 1- 1.5%
อย่าลืมว่า อัตราเงินเฟ้อตอนนี้มัน 5.X% นะ
ถ้าจะล้างพอร์ต เหมือนจัดทีมฟุตบอลแบบลงไปอุดอย่างเดียว ถ้าสถานการณ์น่ากลัวมากก็อาจจะถูกนะ
แต่ถ้าไม่ได้น่ากลัวมาก การ conservative เกินไป จะคล้ายเล่นแบบรอโดน ที่สุดแม้จะแพ้น้อยก็ตาม แต่แพ้แน่ๆ
นี่ก็อาจจะไม่ใช่วิธีที่น่าสนใจเช่นกัน
ถึงตรงนี้ คหสต.คือ ความเสี่ยงการลงทุนยังค่อนข้างจำกัด
>>> ไทยยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย ... อย่างน้อยก็ถึงปลายปี
>>> เงินต่างชาติ ทิศทางไหลเข้า
>>> การเปิดประเทศอย่างเป็นรูปธรรมกำลังจะเกิดขึ้น ผมสังเกตเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ(และไทยด้วย)ค่อยๆเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ที่ไป
>>> การใช้ชีวิตร่วมกับโควิด น่าจะเป็นธรรมชาติมากขึ้น ธุรกิจควรจะฟื้น โดยเฉพาะธุรกิจบริการ และฟื้นทีนี่งบดีขึ้นอย่างน้อย 6 ไตรมาส นี่คือการฟื้นแบบแข็งแกร่ง
สรุปคือ วันนี้ ก็พูดเหมือนเดิม ก็ยังมองเหมือนตอน SET 1600 ว่า "หุ้นไทยปีนี้ยังลงทุนได้"
แต่การเลือกหุ้น stock selection สำคัญ
โอกาสมีแน่นอน หุ้นทุกตัวมีปีชงของมัน
ซื้อหุ้นดียังไม่พอ มันต้องราคาดี(ถูก)ด้วย
แน่นอนว่า หุ้นดี ส่วนใหญ่ราคามันต้องแพง ... มันจะราคาถูกได้ ต้องเป็นช่วงข่าวร้าย ปีชง รอบวิกฤต พอดี ไม่งั้นไม่มีโอกาสซื้อ
จึงต้อง"ใจกล้าๆ"
ซื้อตอนที่มันราคาถูกด้วยครับ