ถ้าเราพูดถึงกลุ่มที่ฟื้นตัวได้ดีหลังผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 ไปแล้ว
เชื่อว่า "กลุ่มโรงพยาบาล" น่าจะเป็นกลุ่มแรกๆที่น่าจะฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น
และ BH ก็ถือเป็นหุ้นอีกตัวที่ Perform ตลาดได้ดีมากๆช่วงนี้

BH หรือ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็นหุ้นที่ราคาหุ้นขึ้นได้ดีมากๆ
เมื่อราคาหุ้นขึ้นได้ดี แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความมั่นใจใน "ปัจจัยบวกของ BH" ที่มีอยู่มาก

ถามว่า BH มีปัจจัยบวกอะไรที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามบ้าง
คำตอบ คือ มี 3 ปัจจัยบวก คือ

1. ลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
ภาพของ BH ส่วนใหญ่ในอดีตจะเน้นไปที่ลูกค้าต่างชาติ ในบริการพรีเมี่ยม
แต่ BH ก็ให้ความสำคัญกับลูกค้าชาวไทยด้วยเหมือนกัน
ซึ่งจะเห็นได้ว่า สัดส่วนลูกค้าชาวไทย คิดเป็น 54% ของรายได้ทั้งหมด และลูกค้าชาวไทยในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ก็เพิ่มขึ้นมากถึง 21% ในช่วงก่อนโควิด ซึ่งชี้ให้เห็นว่า BH ได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจากลูกค้าชาวไทย

กลยุทธ์ที่ทาง BH ใช้ เช่น ร่วมมือกับพันธมิตรค่ายต่างๆ เช่น The1 Card
การส่งต่อในโรงพยาบาลพันธมิตร
การขายผ่าน Digital Package จากร้านค้าออนไลน์
ซึ่งจากกลยุทธ์เหล่านี้ เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้าชาวไทยเติบโตได้อีกราวๆ 13% ในปี 2022

2. ลูกค้าชาวไทยเพิ่ม ลูกค้าชาวต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ในช่วงโควิด ลูกค้าชาวประเทศอาจจะไม่โดดเด่นมากเท่าไรนัก เว้นแต่จะเป็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว
แต่หลังจากการเปิดประเทศ รายได้ตรงส่วนนี้จะเริ่มฟื้นตัว

บทวิเคราะห์ฟินันเซียไซรัส วิเคราะห์ว่า รายได้จากลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มขึ้นราวๆ 46% จากช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 โดยกลุ่มลูกค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นมาจาก
... ลูกค้าชาวตะวันออกกลาง 45%
... ลูกค้าในกลุ่มอินโดจีน 50%
... ลูกค้าชาวพม่า 52%
และแนวโน้มนี้จะปรับเพิ่มขึ้นไปจนถึงสิ้นปี 2566

3. ปัจจัยบวกที่กล่าวมา ทำให้ Margin ของ BH เพิ่มสูงขึ้น
ในไตรมาส 4 ของปี 2564 บริษัทมี EBITDA margin ราวๆ 29% ซึ่งถือเป็นระดับสูงที่สุดตั้งแต่ในช่วงโควิด (จากเดิม 32% ในช่วงก่อนโควิด)

ทั้งนี้ BH อาจจะมีแผนในการปรับเพิ่มราคาอีกราวๆ 3%
และลดค่าบริการทางการแพทย์ลงราวๆ 18% เพื่อประหยัดต้นทุน
ซึ่งจะทำให้ EBITDA margin ของ BH กลับมาอยู่ในระดับ 32% ในปี 2565 ซึ่งเป็นระดับก่อนโควิดได้

บทวิเคราะห์ฟินันเซียไซรัส มองว่า หุ้น BH มีความน่าสนใจจากแนวโน้มที่ทดี การเติบโตของกำไรปกติอยู่ที่ 54%
และที่สำคัญ คือ ค่า P/E Ratio ของ BH ตอนนี้อยู่ระดับ 32 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่อยู่ในระดับ 38 เท่า

อนึ่ง สัดส่วนรายได้ของ BH แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ด้วยกัน คือ
ลูกค้าชาวไทย คิดเป็น 54%
ลูกค้าต่างประเทศ คิดเป็น 45%
อื่นๆ คิดเป็น 1%

ถือเป็นหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่น่าจับตามองครับ ....

----------------------------------------

Reference

บทวิเคราะห์ฟินันเซียไซรัส