ก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครน เราทราบหรือไม่ว่าค่าเงินอยู่ที่เท่าไร
คำตอบ คือ ค่าเงินอยู่ที่ 78-80 รูเบิลต่อดอล์ล่าร์สหรัฐ
แต่พอบุกยูเครน ค่าเงินก็อ่อนตัวลงทันทีไปอยู่ที่ 160 รูเบิลต่อดอล์ล่าร์สหรัฐ
อ่อนตัวขึ้นมา 100% โดยสาเหตุสำคัญ คือการเทขายค่าเงินของนักลงทุนต่างชาติเพื่อให้เกิด Financial Sector Meltdown บริษัทใหญ่หลายๆแห่งปิดตัว คนตกงาน เศรษฐกิจตกต่ำ ประเทศล้มละลาย คล้ายๆกับเหตุการณ์ต้มยำกุ้งของประเทศไทย
สถานการณ์ล่าสุดสหรัฐและยุโรป เตรียมคว่ำบาตรครั้งใหม่ เพื่อลงโทษรัสเซียโดยการเพิ่มมาตรการอีก 6 ข้อ คือ
1. ห้านนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย
2. คว่ำบาตรธนาคารสำคัญ 4 แห่งของรัสเซีย หนึ่งในนั้นเป็นธนาคารวีทีบี (VTB) สถาบันการเงินใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ
3. ห้ามเรือสินค้าของรัสเซีย หรือเรือที่มีชาวรัสเซียเป็นผู้ดำเนินการ เข้าเทียบท่าเรือของอียู
4. ห้ามการส่งออกไปรัสเซีย
5. ห้ามนำเข้าสินค้าอุปโภค บริโภค ของรัสเซีย
6. ระงับความช่วยเหลือ รวมถึงสนับสนุนทางการเงินของหน่วยงานสาธารณะของรัสเซีย
จากการคว่ำบาตรที่ผ่านมา รวมถึงครั้งล่าสุด ตลาดน่าจะประเมินว่าค่าเงินรูเบิลน่าจะอ่อนค่าลงไปอีก
แต่ไม่ใช่แบบนั้น ...
กลับกลายเป็นว่าค่าเงินรูเบิลกลับมาแข็งค่าได้อย่างรวดเร็ว
ช่วงก่อนที่รัสเซียจะโจมตียูเครน ค่าเงินอยู่ที่ 78-80 รูเบิลต่อดอล์ล่าร์สหรัฐ
และสถานการณ์พีคสุด ทำให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ 160 รูเบิลต่อดอล์ล่าร์สหรัฐ
แต่ในปัจจุบัน ค่าเงินรูเบิลกลับมาอยู่ที่ 79.7 รูเบิลต่อดอล์ล่าร์สหรัฐ ... เท่ากับช่วงก่อนการบุกโจมตียูเครน
Source : Investing.com
ค่าเงินที่กลับมาแข็งค่าแบบนี้ แสดงถึงอะไร ?
แสดงถึง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและประชาชนที่มีต่อค่าเงินรูเบิล
แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
คำตอบ คือ รัสเซียใช้มาตรการ Capital Control และ Exchange Control ของธนาคารกลางรัสเซียที่ประกาศใช้ในช่วงที่ผ่านมา เช่น
... ไม่ให้ต่างชาติขายสินทรัพย์ในรัสเซีย และห้ามนักลงทุนเอาเงินออกนอกประเทศ
... ให้ผู้ส่งออกต้องนำเงินตราต่างประเทศที่ได้มา 80% ขายเข้าสู่ตลาดแลกกลับมาเป็นค่าเงินรูเบิล
... ถ้าใครอยากขายเงินรูเบิล แล้วไปถือเงินต่างประเทศ ต้องเสียค่าคอมมิชั่น 30%
ด้วยมาตรการเหล่านี้ ทำให้รัสเซียไม่ค่อยมีเงินไหลออกนอกประเทศ ค่าเงินจึงกลับมาแข็งค่าได้อย่าง "น่าเหลือเชื่อ"
อีกทั้งยังมีเรื่องของ การส่งออกน้ำมัน ก๊าซและพลังงาน ต้องใช้สกุลเงินรูเบิลเท่านั้น ทำให้ตลาดค่าเงินรูเบิลกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น
พอค่าเงินมีเสถียรภาพ คนรัสเซียก็ยังมั่นใจในเงิน ก็ไม่ได้ไปต่อแถวแลกเงิน โดยมีธนาคารกลางรัสเซียเป็นคนดูแลเรื่องเหล่านี้อยู่
อย่างไรก็ตาม สิ่งทีน่ากังวลของคนทั่วโลก คือ เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วต่างหาก
ยิ่งมาตรการต่างๆยังไม่จบง่ายๆ สหรัฐและกลุ่มอียูจะยังคว่ำบาตรรัสเซียต่อไป และรัสเซียก็ยังโจมตียูเครนแบบนี้เรื่อยๆ จะทำให้พลังงาน น้ำมัน รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆยืนตัวในระดับสูง ส่งผลให้ค่าครองชีพของปีนี้น่าจะพุ่งสูงขึ้นจนฉุดไม่อยู่อย่างแน่นอน