#แนวคิดด้านการลงทุน

อย่าพยายามไปกะเก็งปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้

โดย อธิป กีรติพิชญ์
เผยแพร่:
129 views

สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนควรต้องทำความเข้าใจและแยกแยะ เกี่ยวกับปัจจัยที่มากระทบต่อการลงทุนของเรา คือ มันมี ปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ ยากเกินคาดเดา กับ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏแล้ว สามารถใช้เป็นต้นธารของการวิเคราะห์ต่อไปได้ 

 

ปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้

นักลงทุนจำนวนไม่น้อย พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะพยายามรับรู้ อัพเดท กระทั่งทำนายทายทัก กับเหตุการณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ตัวอย่างเช่น ในวิกฤตโควิต

  • เราไม่รู้ว่าวัคซีนจะคิดสำเร็จเมื่อไหร่ 
  • เราไม่รู้ว่าวัคซีนจะฉีดให้คนไทยได้เป็นส่วนใหญ่เมื่อไหร่ 
  • เราไม่รู้ว่าจะมีการกลายพันธ์ไปอีกไปถึงเมื่อไหร่ 

 

แต่ในฐานะนักลงทุน เรามีความเชื่อว่ามันจะทำสำเร็จได้แน่ โควิดจะเป็นโรคพื้นถิ่นธรรมดาในวันหนึ่งแน่ๆ ชีวิตผู้คนจะกลับมาแบบเดิมในวันหนึ่งแน่ๆ ต้องใช้เวลานานกี่ปีเท่านั้นแต่ที่สุดแล้วกลับมาแน่

 

ดังนั้น ความพยายามจับจังหวะในภาพเล็ก ความพยายามวิ่งเข้าวิ่งออกจากตลาดในทุกรอบการระบาดให้ถูกจังหวะ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มีปัจจัยเฉพาะตัวมากมาย ความพยายามซื้อหุ้นเต็มพอร์ตลุ้นเปิดเมืองแล้วล้างพอร์ตเมื่อระบาดรอบใหม่ ในทุกๆรอบ ทำบ่อยๆ หากคร่อมจังหวะก็จะสร้างความเสียหายได้มาก สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้

 

นอกจากนี้ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ อาจจะเป็น ความผันผวนของราคาหุ้นในระยะสั้น สงครามและความขัดแย้งระดับโลก (เช่น รัสเซีย-ยูเครน) สภาวะของเศรษฐกิจโลก เช่น ยุโรป จีน อเมริกา ราคาน้ำมันโลก ปัญหาค่าเงิน ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้คาดการณ์ได้ยาก และอยู่นอกเหนือการควบคุมของเราทั้งสิ้น

 

เราทำได้เพียงติดตามอ่าน ตามฟัง ตามวิเคราะห์ และลดความเสี่ยงของการถือหุ้นเท่านั้น แต่การที่จะเอาข้อมูลเหล่านี้มาเก็งกำไรในระยะสั้นนั้นไม่ง่าย ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้เลย 

 

ข้อเท็จจริงที่ปรากฏแล้ว

เราควรใช้เวลาส่วนใหญ่ ไปมุ่งเน้นหาข้อเท็จจริงที่ปรากฏแล้ว ซึ่งคนส่วนใหญ่ในตลาดมักจะละเลยในการอ่านทำความเข้าใจ นี่คือสิ่งที่ไม่เกินขอบเขตความสามารถของเรา มันมีเหตุผล มีข้อเท็จจริงที่ชัดเจน

 

ถ้าเราตามอ่านข้อมูลกิจการ อ่าน MD&A คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ อ่านบทวิเคราะห์หุ้นที่สนใจจากหลายๆสำนัก ดู Opportunity Day หรือ Webcast ประชุมผู้ถือหุ้นในส่วนที่ผู้บริหารให้ข้อมูลธุรกิจ ทำไปเรื่อยๆ ในทุกๆไตรมาส เราจะสามารถวิเคราะห์บริษัทในแง่มุมต่างๆได้ในที่สุดจะเกิดความรอบรู้ในกิจการที่ลงทุน นี่คือการใช้ความพยายามไปกับข้อเท็จจริง ที่สามารถใช้เป็นต้นธารของการวิเคราะห์ต่อไปได้ แตกแขนงต่อเนื่องได้อย่างมากมาย 

  • ภาพรวมอุตสาหกรรมของกิจการที่เราลงทุนเป็นอย่างไร 
  • กิจการที่เราลงทุน มีจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และความเสี่ยง ตรงไหน 
  • กิจการมีโมเดลและกลยุทธ์ทางธุรกิจเป็นอย่างไร 
  • แผนธุรกิจในอนาคตที่จะสร้างการเติบโต เพิ่ม Market Share คืออะไร 
  • คู่แข่งทางตรง คู่แข่งทางอ้อม มีใครบ้าง เขาทำอะไร เขาจะมาเอาชนะกิจการเราได้หรือไม่ 
  • ฯลฯ

ทั้งหมดคือตัวอย่างของความพยายามเพิ่มขอบเขตความรอบรู้ของเรา ในกิจการและอุตสาหกรรมที่เราลงทุนอยู่ ยิ่งเราเพิ่มความลึกในการศึกษาธุรกิจของกิจการ

 

รวมถึงคู่แข่งทางตรงทางอ้อม และขยายไปทั้งอุตสาหกรรมที่เราลงทุน เราจะมีความรอบรู้ใกล้เคียงกับคนในอุตสาหกรรมนั้นมากขึ้น หากทำได้ดี ทำได้ต่อเนื่องและยาวนานพอ ก็อาจจะมีความรู้ใกล้เคียงกับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่ดูแลกลุ่มนั้นๆได้เช่นกัน  

 

เมื่อฝึกฝนมากถึงระดับหนึ่ง ข่าวสารของกิจการหรืออุตสาหกรรมใดๆที่ออกมา เราจะสามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ได้ทันที และเกิดไอเดียการลงทุนอย่างรวดเร็ว และกล้าลงมืออย่างมั่นใจ ทั้งในฝั่งการเข้าซื้อถือรับโอกาส หรือฝั่งการคัท ตัดออกจากพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง


เจ้าของหนังสือ Best Seller “ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ” และยังเป็นวิทยากรคอร์ส “ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานแบบ Value/Growth Investor” ด้วยประสบการณ์ในตลาดทุนกว่า 17 ปี และประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์ บวกกับความเป็นคนอารมณ์ขัน  ทำให้คุณนิ้วโป้งสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก อย่างการลงทุน ให้เข้าใจได้ง่าย และยังใช้ภาษา ลีลาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ มากมาย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง