รู้หรือไม่ว่าเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วที่ตลาดหุ้นรัสเซียปิดทำการ ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565
สาเหตุเพราะ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ถือเป็นวันแรกที่รัสเซีย บุกยูเครนเป็นวันแรก
ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้น Moscow Stock Exchange ร่วงภายในวันเดียว -33%
ทางภาครัฐจึงออกมาตรการ "สกัด" การร่วงอย่างแรงของตลาดหุ้น โดยการ "ปิดตลาดหุ้นไปเลย" แบบไม่มีกำหนด
วานนี้ถือเป็นวันแรกที่ตลาดหุ้นรัสเซียเปิดทำการในรอบ 1 เดือน
ถามว่าถ้ามองแบบผิวเผินแล้ว หลังการปิดแบบภาคบังคับตลาดหุ้นรัสเซียควรจะไปทิศทางไหน ?
เชื่อว่านักลงทุนกว่า 98% ต้องตอบว่า "ร่วงอย่างรุนแรง" แน่นอน เป็นเพราะว่า
1. นักลงทุนไม่ชอบเรื่องของการควบคุม การบังคับ และความไม่แน่นอน
... การที่ภาครัฐออกมาปิดตลาดหุ้นแบบ "ฉุกเฉิน" แน่นอนว่าสร้างความหวาดกลัวให้กับนักลงทุน เพราะการปิดลักษณะนี้ไม่รู้ว่าจะเปิดอีกทีเมื่อไร และระหว่างที่ปิดอยู่นั้นจะเกิดสถานการณ์อะไรบ้าง เป็นความไม่แน่นอนที่นักลงทุนในตลาดต้องเทขายหุ้นอยู่แล้ว
2. การก่อสงครามของรัสเซีย จะถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
... ถ้ารัสเซียถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ค่าเงินรูเบิลจะต้องถูก "ลดมูลค่าลง" เป็นความเสี่ยงสูงมากต่อนักลงทุนต่างชาติที่เข้าไปถือครองทรัพย์สินในรัสเซีย จึงไม่แปลกใจถ้าจะเห็นนักลงทุนสถาบันต่างชาติจะเทขายทุกราคา (ถ้าทำได้)
แต่ในความเป็นจริงคือ หลังการเปิดตลาดหุ้น Moscow Stock Exchange บวกแรงถึง +12% จากการปิดที่ยาวนาน ถือว่าผิดคาดอย่างมาก
แต่หลังจากนั้นดัชนีก็ค่อยๆถอยลดลงมาเรื่อยๆ จนเหลือเพียง +4%
ถามว่าเพราะสาเหตุอะไร ทำไมตลาดหุ้นรัสเซียถึงบวกได้แรง สวนตลาดได้ถึงขนาดนั้น ?
นักวิเคราะห์จาก CNN วิเคราะห์การเปิดตลาดครั้งนี้มีเงื่อนไขพิเศษ คือ
1. ห้ามนักลงทุน Short Sell (ขายล่วงหน้า)
2. สั่งห้ามนักลงทุนต่างชาติ เทขายหุ้น
3. เปิดซื้อขายเฉพาะกลุ่มหุ้น Commodities ที่ได้ประโยชน์
... ซึ่งมีทั้งหมด 33 บริษัท จากทั้งหมด 50 บริษัท ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยหุ้นที่มีปัจจัยบวกพิเศษ เช่น ทำธุรกิจน้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ได้รับแรงจากราคาที่บวกขึ้นมารุนแรงก่อนหน้า
ในอดีตที่ผ่านมา สัดส่วนการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นรัสเซียคิดเป็น 50% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด
เมื่อพวกเขาถูก "สั่งห้าม" จึงไม่มีแรงขายออกมา และไม่แน่ว่ากองทุนในประเทศอาจจะถูกสั่งให้ซื้อหุ้นขึ้นไปด้วย ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นรัสเซียเปิดบวกได้ดีมากๆ
... แต่คำถามสำคัญ คือ ตลาดหุ้นไม่ชอบเรื่องของการบังคับ การควบคุม
รัฐบาลจะสั่ง "แรงขาย" ได้อีกนานแค่ไหน เป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างมาก
ข้อสังเกตสุดท้ายที่น่าสนใจ คือ ถ้านักลงทุนเทขายหุ้นออกมาไม่ว่าจะเป็นสถาบันในประเทศ หรือนักลงทุนต่างชาติ ถ้าขายออกมาแล้วก็อยู่ในสกุลเงิน "รูเบิล" ที่ถูกลดมูลค่าลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
อีกทั้ง ยังมีเรื่องของ Capital Control มาตรการ Sanctions ต่างๆ และกฏเกณฑ์ของการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
เรื่องเหล่านี้ถือเป็น ประเด็นการแก้ปัญหาที่น่าติดตามอย่างมาก ว่าจะออกมาในทิศทางไหนครับ
------------------------------------------
Reference
https://www.wsj.com/articles
https://th.investing.com/indices/mcx-chart
https://edition.cnn.com/2022/03/24/investing/russia-stocks-market/index.html
https://www.barrons.com/articles/russian-stock-market-moex-index-51648063294