เมื่อไม่นานมานี้หุ้น Berkshire Hathaway ของวอเร็น บัฟเฟตต์ ได้ทำจุดสูงสุดที่ราคา 5.12 แสนเหรียญ หรือตีเป็นเงินไทยจะอยู่ราวๆหุ้นละ 15 ล้านบาท
แต่หุ้นละ 15 ล้านบาทนี้เอง เป็นหุ้น Berkshire Hathaway แบบ Class A
เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าหุ้น Berkshire Hathaway มี 2 Class ด้วยกัน
คือ หุ้น Class A และ หุ้น Class B
... หุ้น Class A จะอยู่ที่หุ้นละ 5 แสนเหรียญ
... หุ้น Class B จะอยู่ที่หุ้นละ 340 เหรียญ (หรือราวๆ 10,200 บาท)
ด้วยหุ้น Class A มูลค่าหุ้นละ 5 แสนเหรียญ เลยเกิดเป็นคำถามที่นักลงทุนชาวไทยไม่เข้าใจว่า
"ทำไมไม่แตกหุ้น"
อยากจะเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ ...
ครั้งหนึ่งในปี 1995 บัฟเฟตต์ เคยกล่าวถึงในงานประชุมผู้ถือหุ้นของ Berkshire ว่า...
ตอนนั้นหุ้น Berkshire อยู่ราวๆ 25,000 เหรียญ (7.5 แสนบาท) มีผู้ที่สนใจจำนวนมากมักจะถามเขาว่า ทำไมเขาถึงไม่แตกหุ้น ?
น่าจะประกอบไปด้วย 2 เหตุผล คือ
1. เขาอยากให้หุ้น Berkshire Hathaway เป็นหุ้นที่ถูกส่งต่อเป็นของขวัญให้กับลูกหลาน
ถ้าสมมุติว่ามีหุ้นอะไรซักอย่างถูกส่งต่อให้กับลูกหลาน ลูกหลานก็คงจะถามว่า "นี้คือหุ้นอะไร" "เอามาทำอะไร"
แต่ถ้าเป็นหุ้น Berkshire Hathaway ลูกหลานของคุณจะรู้สึกดีใจ เพราะมันมีราคาสูงถึง 2 หมื่นเหรียญเลยนะ
2. เป็นความตั้งใจของบัฟเฟตต์ที่อยากให้ราคาหุ้นสูงๆเพราะถือเป็นการคัดเลือกนักลงทุนระยะยาวที่อยากจะถือหุ้น Berkshire จริงๆ
เขาบอกว่า ด้วยราคาที่สูงและสภาพคล่องที่น้อย ย่อมดึงดูดให้นักลงทุนที่อยากจะถือหุ้นระยะยาวจริงๆยอมซื้อในราคาที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ สิ่งที่เขาต้องการคือนักลงทุนระยะยยาวพันธุ์แท้ที่เต็มใจจะถอหุ้นของเขาจริงๆ ไม่ใช่การเข้ามาเก็งกำไรซื้อๆขายๆ
อย่างไรก็ตามในปี 1996 วอเร็น บัฟเฟตต์ ก็ออกหุ้น Class B ในปี 1996 ด้วยราคา 24 เหรียญต่อหุ้น
ถ้านักลงทุนคนไหนถือหุ้น Class B มาจนถึงตอนนี้ จะสามารถสร้างผลตอบแทนสูงถึง 1,300% ตลอดการถือ 26 ปี
หลายๆครั้งเวลาที่บัฟเฟตต์ ทักทายกับชาลี มังเกอร์ เพื่อนสนิทของเขา
มักจะมีคำพูดติดตลกอยู่เสมอว่า May you live until the A stock splits "ขอให้ได้อยู่จนกว่าจะเห็นหุ้น Berkshire แตกหุ้นนะ"
พูดง่ายๆก็คือ เขาจะไม่มีวันแตกหุ้นอย่างแน่นอน ...