หุ้น JMART ทำไมถึงวิ่งได้แรงและเร็วมาก ?
คำตอบสั้นๆ คือ เพราะบริษัทมีการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ และจะมีการเติบโตเชิงรุกปีละ 50% ในอีก 3 ปีข้างหน้า
ถือว่าเป็นการเติบโตที่สูงมาก

สำหรับคำตอบยาวๆ เป็นเพราะว่าบริษัทมีประเด็นบวกจำนวนมาก
อยากจะเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ ... !

ในงานแถลงข่าวของ JMART Group Business Direction 2022 บริษัทมองภาพรวมของธุรกิจเชิงรุก ปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ใหม่ที่ต้องการก้าวสู่การเป็น Technology Investment Holding Company ซึ่งจะเป็นแนวคิดสําคัญขับเคลื่อนเดินหน้าตาม
เป้าหมายที่ต้องการขยายฐานกําไรแบบทวีคูณ J Curve ปีละ 50% ใน 3 ปีนับจากนี้

โดยจะมุ่งเน้นไปที่ 2 กลุ่มธุรกิจที่ JMART ทำอยู่ในปัจจุบัน คือ ค้าปลีก (Retail) และ การเงิน (Finance)

== ธุรกิจ Finance ==
มี 3 หัวหอกหลักคือ JMT SINGER และ KBJ (กลุ่ม JFin Tech ร่วมกับKB Financial Group ยักษ์ใหญ่ธุรกิจการเงินเกาหลีใต้)

1. JMT (ถือหุ้น 53.9%) กําหนดเป้าหมายเติบโตเกิน 45% โดยจะซื้อหนี้เข้ามาติดตามเพิ่ม
ไม่ต่ํากว่า 1.0 หมื่นล้านบาท

2. SINGER (ถือหุ้น 26.5%) กําหนดเป้าหมายปี 2565 เติบโต 75% เป็นการนําเงินที่ได้จาก
BTS ไปขยายฐานสินเชื่อเช่าซื้อ โดยเพิ่มจุดขายเป็น 7,000 จุด จาก 3,500 จุดสิ้นปี 2564
และเพิ่มสินเชื่อจํานําทะเบียนรถ ซึ่งจะมีต้นทุนต่ําลง เพราะไม่ต้องก่อหนี้เหมือนที่ผ่านมา

3. KBJ (ถือหุ้น 49%) ที่กําหนดเป้าหมายเติบโตเท่าตัว (ใกล้เคียงที่กําหนดในประมาณการ)
จากการขยายตัวทั้งธุรกิจเดิม (สินเชื่อบริโภค บัตรเงินสด) และใหม่ อาทิ บัตรเครดิต และ
Digital Lending

== ธุรกิจ Retail ==
1. J Mobile (ถือหุ้น 99%) กําหนดเป้าหมายปี 2565ที่สูงถึง 50% และกําไรจะเพิ่มขึ้นกว่า
เท่าตัว โดยยอดขายคาดจะได้ประโยชน์ในแง่พันธมิตรใหม่ Fanslink บริษัทย่อยของ VGI ที่จําหน่าย Gadgets เข้ามารวมถึง การเป็นตัวแทนขายจําหน่ายสินค้าไอที ประเภท Notebook และเกมส์กับ SYNEX ช่วยเพิ่มความหลากหลายสินค้าจากเดิมที่เน้นจําหน่ายมือถือ ภายใต้แนวทางการขายอํานวยความสะดวกเงินกู้ให้กับลูกค้า ผ่าน 2 บริษัทลูกอย่าง KBJ และ SINGER

2. J (ถือหุ้น 66.07%) แต่เดิมบริษัททำธุรกิจเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ บริหารจัดการพื้นที่เช่า ห้างสรรพสินค้า แต่หลังจากปรับปรุงโครงสร้างแล้วจะเร่งเพิ่มรายได้ โดยจะเป็นช่องทางจําหน่ายบ้านมือ 2
ที่ JMT ยึดจากลูกค้า Secure Loan มาปรับปรุงใหม่เพื่อขาย
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายมูลค่าขายปี 2565 ราว 100 ล้านบาท และยังมีการเปิดโครงการ Community Mall ใหม่ที่คู้บอนที่หนุนปี 2565 เต็มปี

== ประเด็นใหม่ๆที่น่าจับตาของ JMART ==
1. การร่วมมือกับ KBANK
เมื่อไม่นานมานี้ JMT ประกาศแผนร่วมทุนกับ KBANK ในการซื้อหนี้เข้ามาติดตามระยะยาว และทำให้ต้นทุนในการซื้อต่ำลง

2. แผนการสร้าง Ecosystem ของธุรกิจปัจจุบันให้มีความแข็งแกร่งและใหญ่ขึ้น โดยบริษัทประกาศลงทุนราว 25% ในบริษัท JayDee ร่วมกับดีลเลอร์จําหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ รุก
ขยายธุรกิจใหม่
และบริษัทใหม่ Thailand AmZ ที่เน้นธุรกิจ Retail and Finance
Solution Platform

จริงๆ ทาง JMART เตรียมพร้อมมานานแล้วโดยมีบริษัทลูกอย่าง J Venture (ถือหุ้น 66.7%) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานในปัจจุบัน ในระยะกลาง-ยาวจะเป็นฐานที่มความสําคัญที่ทางกลุ่มจะสามารถใช้เทคโนโลยี J Venture ที่มีการพัฒนา Platform เพื่อช่วยยกระดับการเติบโตระยะกลาง-ยาวของทั้ง 2 ธุรกิจให้อยู่ในรูปแบบการเติบโตแบบทวีคูณต่อไป

3. SINGER และ JMART ที่ประกาศความร่วมมือกับ GUNKUL
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทตั้งบริษัทร่วมทุนโดยแบ่งเป็น  
GUNKUL 50%
JMART 40%
และ SINGER 10%
ดำเนินธุรกิจขาย Solar Rooftop ให้ลูกค้า Hire Purchase ในต่างจังหวัดของ SINGER

จากที่กล่าวมาข้างต้น คือ ประเด็นบวกทั้งหมดที่ JMART ทั้งหมดมีอยู่ ...
และแน่นอนว่า ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ถูกรวมเข้าไปอยู่ในประมาณการของบทวิเคราะห์มากนัก ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นบทวิเคราะห์พร้อมใจกันปรับคำแนะนำเพิ่มขึ้น

เมื่อบทวิเคราะห์พร้อมใจกันปรับขึ้น
นักลงทุนมองเห็นโอกาสและมองเห็นการเติบโตที่สูงมากของ JMART ก็พร้อมใจกันซื้อจนราคาพุ่งทำ All Time High ได้อย่างไม่ยาก
แต่ประเด็นสำคัญคือ ด้วยราคาที่พุ่งขึ้นมามากกว่า 200% จะยังเป็นโอกาสหรือความเสี่ยง คงจะมีแต่นักลงทุนเท่านั้นที่ตอบได้

---------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.cns.co.th/research/daily/play_of_the_day.pdf

https://www.kaohoon.com/news/505584

https://www.efinancethai.com/HotNews/hotnewsmain.aspx?release=y&name=h_050122h

https://inv4.asiaplus.co.th/asps/research_file.php?id=60734&file=1

https://news.trueid.net/detail/XRZYA0X83POl

https://mgronline.com/stockmarket/detail/9650000001141