เส้นค่าเฉลี่ย (Moving Average) ใช้สำหรับดูแนวโน้มของราคาหุ้น
- ถ้าราคาหุ้นอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย แสดงว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น
- ถ้าราคาหุ้นอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ย แสดงว่าเป็นแนวโน้มขาลง

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม : บอกแนวโน้มหุ้นด้วยวิธีง่ายๆ ... เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน

โดยส่วนใหญ่ นักลงทุนอาจจะใช้เส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน หรือ 200 วัน ในการดูแนวโน้ม ...
แต่เนื่องจากว่า 100 วัน และ 200 วัน อาจจะให้สัญญาณที่ "ช้า" เกินไป
... ไม่เหมาะแก่การเก็งกำไรสำหรับนักลงทุนที่ชอบ "เล่นเร็ว"

ส่งผลให้นักลงทุนบางคนพยายาม "ปรับเปลี่ยน" เส้นค่าเฉลี่ยให้เร็วขึ้น และใช้สำหรับจับจังหวะในการซื้อ-ขาย ได้อีกด้วย
ที่นิยมใช้กัน คือ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน และเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ในการดูไปพร้อมกัน

เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน หมายถึง ราคาหุ้นย้อนหลัง 10 วัน นำมาหาค่าเฉลี่ยของราคา
เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน หมายถึง ราคาหุ้นย้อนหลัง 50 วัน นำมาหาค่าเฉลี่ยของราคา

นักเก็งกำไรจะใช้อยู่ 2 อย่าง คือ ดูแนวโน้มราคาหุ้น และใช้เพื่อจับจังหวะซื้อ - ขาย

== วิธีการดูแนวโน้ม ==
ถ้าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน อยู่เหนือเส้น 50 วัน ... เป็นทิศทาง "ขาขึ้น"
ถ้าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน อยู่ใต้เส้น 50 วัน ... เป็นทิศทาง "ขาลง"

== วิธีการจับจังหวะซื้อขาย ==
ถ้าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ตัดเส้น 50 วันขึ้นมา ... เป็นสัญญาณ "ซื้อ"
ถ้าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ตัดเส้น 50 วันลงมา ... เป็นสัญญาณ "ขาย"

มาดุตัวอย่างกันครับ ...
เส้นสีเขียว คือ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน และเส้นสีฟ้า คือ เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน

บางครั้งสัญญาณซื้อขาย ก็อาจจะเกิดจังหวะที่ทำให้นักเก็งกำไรโดนหลอกได้ด้วยเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น หุ้น CPALL

การเก็งกำไร ไม่มีเครื่องมือไหนที่จะทำกำไรให้นักลงทุนได้แน่นอน
ประเด็นสำคัญ คือ ต้องมีวินัยอย่างเคร่งครัด
"กล้าขายทำกำไร" และ "กล้าตัดขาดทุนเมื่อผิดทาง"