SET ปี 2565 วันแรก
ถามว่ามอง SET ปีนี้บวก หรือ ลบ
ก็บ่องตงๆ ว่า ผมเลือกมอง "บวก" นะ
เหตุผลหลักๆคือ ตลาดหุ้นเรามีความ Laggard (ล้าหลัง)
แถมเรายังมีหุ้นที่พฐ.ดีใช้ได้ แต่ราคาล้าหลังซ้ำซ้อน
กล่าวคือ SET ปีที่ผ่านมา +200 จุด
แต่มันก็มีหุ้นบางส่วน ที่แทบจะไม่ปรับขึ้น หรือปรับขึ้นน้อยมากก็มี
หุ้นเหล่านี้ รอให้ความกดดันของโควิดที่อำมหิตมา 2 ปี ค่อยๆจางลง
คือเป็นพวกฟื้นแน่แหละ แต่ฟื้นช้ากว่าเพื่อน ถ้ากล้าถือข้ามรอบ ก็มีโอกาส
นี่คือกลุ่มที่ "ล้าหลังซ้ำซ้อน คือ Double Laggard"
รอ Reopening Boom หรือ รอ Recovery นี่แหละครับ
หนึ่งในข้อมูล "เชิงบวก" ที่เริ่มมองเห็นตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว
คือ Fund Flow จากต่างชาติ เริ่มมา
ตามเส้นสีเขียว (source : SETSMART)
ปีที่แล้ว ด้วยการบริหารจัดการโควิดที่ปั่นป่วน ในช่วงต้นปีถึง Q3 ต่างชาติก็ขายหุ้นไทยทิ้งออกแบบหมดหวัง
กระทั่งจุดต่ำสุด ของการปิดเมืองรอบ 3 ช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ที่ผ่านมานี่แหละ
ทำเป็นเล่นไป ... Fund Flow ต่างชาติ เข้ามา
รอบ 6 เดือนล่าสุดสุทธิ +2หมื่นล้านบาท
ถ้านับจากจุดต่ำสุดที่ปลายส.ค. ต่างชาติเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทยรวดเดียวถึงสิ้นปี ที่ +5 หมื่นล้านบาท
จัดเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยได้เห็นในรอบหลายปี
Fund Flow ต่างชาติ มีความสำคัญเหมือนกันนะ
ในกรอบเวลาหนึ่ง ถ้า Flow ต่างชาติไหลเข้า
"SET มักจะปรับตัวขึ้น"
ครึ่งปีที่ผ่านมา SET +100 กว่าจุด
ถ้า Fund Flow เข้าต่อเนื่อง ... โดยหลักการแล้วควรเข้า
1. หุ้นใหญ่
2. หุ้นราคาล้าหลัง
ที่นักวิเคราะห์มักจะเรียกกันว่า หุ้น Big Cap & Laggard นั่นแหละ
ทีนี้เราก็ต้องมาเลือกกันละ ว่า
หุ้น Big Cap นี่ อะไรน่าสนใจ อะไรไม่น่าสนใจ
Stock Selection ยังคงสำคัญที่สุด
การจั่วครั้งแรกของปี 65
ก็ขอให้จั่วได้ Good Stock at Good Price ติดมือ