#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

BRI หุ้นอสังหาแนวราบ … เรือธงของ ORI

โดย Stock Vitamins - วิตามินหุ้น
เผยแพร่:
320 views

ถ้า ORI แปลว่า โอกาส  BRI ขอเป็นตัวแทนของการเติบโต

หุ้นตัวแรกที่ ORI ทำการ spin off จากแผนการพาลูกๆ เข้าตลาดไม่น้อยกว่า 8 บริษัท ภายใน 5 ปี นับจากนี้

ตอน  BRI จะเข้าตลาด หลายคนอาจจะกังวลที่เห็นตลาดลงแรง BRI จะเป็นยังไง
หลายคนตั้งคำถามว่าราคาหุ้นแพงไปหรือเปล่า วันนี้วิตามินหุ้นจะมาแชร์มุมมองในด้านต่างๆ ให้ประกอบการพิจารณาลงทุนกันครับ


== หุ้นน้องใหม่โตเร็ว
BRI เปิดตัว บ้านเดี่ยวโครงการแรก Britania ศรีนครินทร์ เมื่อปลายปี 2017 มูลค่าโครงการประมาณ 900 ล้านบาท ขายดีมาก แค่ 1 ปี 10 เดือน ก็ปิดโครงการได้แล้ว เวลาผ่านไป 5 ปี ในสิ้นปี 2021 BRI จะมี 21 โครงการ มูลค่ารวมนับตั้งแต่โครงการแรก คิดเป็นเกือบ 24,000 ล้านบาท

เรียกได้ว่าโตแบบก้าวกระโดด ด้วยจุดเด่นของ Location ที่ดี แบบบ้าน Modern British Style สิ่งอำนวยความสะดวกที่ดึงดูดใจ โดยมีบ้าน 4 segments ด้วยกันไล่ตั้งแต่คนเริ่มต้นซื้อบ้านในระดับราคาไม่สูงมากจนไปถึงบ้านหรูมีสระว่ายน้ำ คือ

>> Brighton ราคา 2.5-4 ล้านบาท
>> Britania ราคา 4-8 ล้านบาท
>> Grand Britania 8-20 ล้านบาท
>> Belgravia 20-50 ล้านบาท เป็น Pool Villa ทุกหลัง


== อาศัยประโยชน์จาก ORI
เริ่มตั้งแต่ผู้บริหาร ได้พี่จี๊ด ศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ สถาปนิกที่คร่ำหวอดในวงการเริ่มงานมาตั้งแต่ STEC, PSH, AP และมาจบที่ BRI พี่จี๊ดเป็นคนที่ทำ Pre Fabrication ตั้งแต่สมัยอยู่ PSH และถ้าเราดูผู้บริหารของ BRI ส่วนมาก็มาจาก PSH หลายท่านอยู่เหมือนกัน

ในแง่ของเงินลงทุนเบื้องต้นก็เป็นงบจาก ORI ที่จัดสรรให้ การจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ก็รวมออเดอร์กันทั้งกลุ่มทำให้ได้ต้นทุนที่ดี และสิ่งที่ ORI กำลังทำทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทำความสะอาดบ้าน Solar Roof คลังสินค้า ธุรกิจสุขภาพ ต่างๆ นานา ที่เป็น new business ก็จะเอากลับมาใช้กับ BRI ได้ด้วยเช่นกัน  

นอกจากนี้ 40% ของลูกค้า BRI ก็คือ คนที่ซื้อคอนโดของ ORI มาก่อน และพอจะขยับขยายมาซื้อบ้าน แต่งงาน มีลูก ก็มาซื้อบ้านของ BRI ต่อเนื่อง


== ผลการดำเนินงาน
ปี 2561 ยอดขาย 513 ล้านบาท กำไรสุทธิ 71 ล้านบาท
GPM 31.9% NPM 13.9%

ปี 2562 ยอดขาย 1,556 ล้านบาท กำไรสุทธิ 207 ล้านบาท
GPM 31.4% NPM 13.3%

ปี 2563 ยอดขาย 2,336 ล้านบาท กำไรสุทธิ 348 ล้านบาท
GPM 31.6% NPM 14.9%

9M2564 ยอดขาย 2,804 ล้านบาท กำไรสุทธิ 452 ล้านบาท
GPM 31.6% NPM 16.1%

- รายได้และกำไรเติบโตทุกปีแบบก้าวกระโดด ตามโครงการที่เปิดเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี

- GPM ดูนิ่งๆ แถวๆ 31% ปลาย ขณะที่ NPM เพิ่มได้เรื่อยๆ
เพราะได้ Economy of Scale ที่ดีจาการขยายตัวมากขึ้น


== แนวโน้มการเติบโตดีต่อเนื่อง
Q4 ปีนี้เปิด 6 โครงการ มูลค่า 4,300 ล้านบาท และพร้อมโอนเลย เพราะแนวราบสร้างได้เร็ว แปลว่า ถ้าขายดี เราก็จะเห็นตัวเลขรายได้เข้ามาต่อเนื่อง เป็นการเติบโตแบบ QoQ ได้

ปี 2022 มีแผนเปิด 9 โครงการ 10,800 ล้านบาท โตมากกว่าปีนี้ 40% และมีแผนจะเปิดปีละ 40-50% ในทุกปี เพื่อที่จะได้ขึ้นเป็นผู้นำอสังหาแนวราบในอนาคต

นอกจากนี้เราอาจมโนต่อได้ว่า ORI ทำ JV เยอะกับคอนโด เราก็อาจจะได้เห็น BRI ต่อยอดทำ JV ได้เช่นกัน ซึ่งก็จะได้ทั้งกำไรจากส่วนแบ่ง JV กำไรจากการขายเงินลงทุนและการบริหารงาน


== ประเมินมูลค่าควบคู่ไปกับการเติบโต
มาถึงไฮไลท์ที่เราต้องพิจารณากันให้ดีคือ เรื่องของมูลค่าหุ้น ผมให้ไอเดียเพื่อนๆ ไปทำการบ้านกันต่อแบบนี้ครับ

9 เดือน รายได้ 2,800 ล้านบาท และเราเห็น Q4 เปิดโครงการเยอะ กับ Backlog มี 674 ล้านบาท สมมติเราเดาได้ว่ารายได้ทั้งปี 4,000 ล้านบาท NPM 16% ไม่น่าต่ำกว่านี้

กำไรสุทธิปี 2021 อาจจะได้ 640 ล้านบาท หารด้วย 852 ล้านหุ้น ได้ EPS 0.75 บาท ราคา IPO 10.50 บาท คิดเป็น P/E 14 เท่า ถูกหรือแพงลองเทียบกับแนวราบเจ้าอื่นดู

แต่ตอนนี้สิ้นปีแล้ว ถ้าเรามองไปถึงปีหน้า เปิดโครงการเพิ่ม 40% มีทั้ง Britania และ Grand Britania มีไปเปิดที่อุดรธานี ระยอง ด้วย ผู้บริหารเคยเปรยๆ ว่า ยอดขายอาจจะโตได้เป็นเท่าตัว สมมติรายได้ปีหน้า 8,000 ล้านบาท NPM 16% กำไรสุทธิ 1,280 ล้านบาท

ปีหน้าอาจจะได้ EPS 1.50 บาท IPO 10.50 บาท คิดเป็น P/E 7 เท่า ถูกหรือแพงลองเทียบกับแนวราบเจ้าอื่นดู

นั่นแปลว่า อยู่ที่มุมมองของเรากับตลาดแล้วว่า จะมองอนาคตสดใสแค่ไหน และต้องเชื่อด้วยว่า BRI จะเติบโตได้เหมือนกับที่เคยทำมาในอดีต และโตแบบก้าวกระโดดไปเรื่อยๆ


== วางแผนการลงทุน
1. ราคาหุ้นยังไม่รู้ว่าจะเปิดเท่าไหร่ แต่ทุกคนสามารถไปคำนวณกันต่อได้ครับว่า ราคา 10.50, 12, 15, 20 บาท คิดเป็น P/E กี่เท่า และเป็นราคาสำหรับกำไรในปีไหน เราก็จะประเมินโอกาสและความเสี่ยงได้

2. โมเมนตัมการเติบโตมีโอกาสโตแบบ QoQ ได้เรื่อยๆ เพราะเปิดโครงการเยอะ โอนได้ไว แปลว่า เวลาประกาศงบแต่ละไตรมาส เราก็น่าจะยิ้มได้ แต่จะโดน sell on fact มั้ย ขึ้นอยู่กับราคา ณ วันนั้น

3. BRI เป็นหุ้นตัวแรกที่ ORI เลือก spin off ออกมา แปลว่า ถ้าเปิดมาสวย ก็จะเป็นกำลังใจที่ดีให้กับหุ้นน้องๆ ที่จะ spin off ตามมา กองทุน นักลงทุนก็จะอยากจองหุ้นตัวอื่นๆ ในอนาคต

4. ถ้า BRI เปิดมา to the moon ก็ให้ลองชำเลืองมองที่ ORI ว่าวิ่งตามมาด้วยมั้ย เพราะบางทีลูกไปไกล แม่อาจจะวิ่งตามได้เช่นกัน


สโลแกนของ BRI คือ A Life You Love ใช้ชีวิตในแบบที่รัก
แต่ BRI จะเป็น A Stock You Love หรือ หุ้นที่เรารักได้ไหม ต้องพิจารณาโอกาสและความเสี่ยงกันดีๆ นะครับ
ก่อนจะซื้อหรือขาย ให้ถามตัวเองว่ามองเห็นอะไรใน BRI ราคานี้ คือ กำไรของปีไหน และแผนการลงทุนของเราคืออะไร
การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลุงทุนทุกครั้งนะครับ


ผู้ชนะแข่งขันโครงการ Stock Writer ของ stock2morrow

https://www.facebook.com/pg/stock.vitamins

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง