#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

ถอดรหัสงบการเงิน ความหมายที่ซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัด

โดย Stock Vitamins - วิตามินหุ้น
เผยแพร่:
120 views

งบการเงินประกาศทุก 3 เดือน ถ้าจะมองว่าเป็นแค่ตัวเลข เราก็จะเห็นแค่ตัวเลข ว่างบดึขึ้นหรือแย่ลง

 

แต่ถ้าเรามองว่ามันเป็นมากกว่าตัวเลข แต่มันคือ รหัสลับ ที่เป็นสัญญาณบอกอนาคต

 

เราก็จะเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในระหว่างบรรทัดที่มากกว่าแค่ตัวเลขนั้น

 

บางคนมองแค่กำไรบรรทัดสุดท้ายว่าโตเท่าไหร่ บางคนมองที่รายได้ด้วยว่าเพิ่มได้หรือเปล่า บางคนมองค่าใช้จ่ายตรงกลางว่าเพิ่มหรือลดแค่ไหน วันนี้วิตามินหุ้นจะขอยกตัวอย่างให้ฟังครับว่า เราจะตีความรายละเอียดระหว่างบรรทัดแบบไหนได้บ้าง

 

1. สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น หนี้สั้นเพิ่มขึ้น กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ

ถ้ามองแค่ผิวเผิน เราอาจจะคิดว่า ไม่ดี ขายของไม่ได้หรือเปล่า สต๊อกก็บวม ก่อหนี้อีก แถมยังเก็บเงินไม่ได้

 

แต่ในความเป็นจริง อาจเป็นเพราะบริษัทคาดการณ์ไว้แล้วว่า ราคาวัตถุดิบจะขึ้นหรือขาดแคลน ต้องรีบสต๊อกก่อนจะสายเกินไป ถ้าแบบนี้คือดี แปลว่า จะมีต้นทุนต่ำ ไปขายในวันหน้าที่ของแพงขึ้น เช่น หุ้นที่เกี่ยวกับยางพารา ทองแดง เหล็ก เป็นต้น

 

นอกจากนี้ หลายครั้งที่เราเห็นสัญญาณควบคู่กันไปที่งบดุล คือ หนี้สินระยะสั้นสูงขึ้น เพราะกู้เงินระยะสั้นมาซื้อวัตถุดิบเป็นสต๊อกนั่นเอง หรืองบกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นลบ เพราะสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น

 

2. รายได้ลด อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่ม

ถ้ามองแค่ผิวเผิน เราจะคิดว่าดูขัดแย้งกัน ขายของได้ลดลง แต่กำไรดีขึ้น แปลกจัง

 

แต่ถ้าไปเจาะดูรายละเอียด แล้วพบว่า product mix หรือ สัดส่วนการขายมีการเปลี่ยนแปลงไป เช่น ไปขายสินค้าที่มาร์จิ้นดีกว่าได้เพิ่มขึ้น แต่สินค้าเดิมที่มาร์จิ้นน้อยขายได้ลดลง ทำให้ภาพรวมยอดขายลดลง แต่มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น 

 

ถ้าเป็นแบบนี้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ยิ่งธุรกิจที่เป็นโรงงานผลิตยิ่งน่าสนใจ แปลว่า ถ้าแนวโน้มยังเป็นแบบนี้ต่อไป หรือกลยุทธ์ของบริษัทมาแบบนี้ กำไรในอนาคตก็จะยิ่งดีมากขึ้นเข้าไปใหญ่ เพราะในความเป็นจริงเวลาปรับกลยุทธ์ หรือปรับไลน์ผลิตปรับเครื่องจักร ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมาบ่อยๆ แปลว่า จะมาเอาจริงกับทางนี้

 

และบ่อยครั้งที่ช่วงแรกๆ ของการที่ GPM เริ่มขึ้น ราคาหุ้นมักจะยังไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่ เพราะนักลงทุนส่วนมากยังไม่สังเกตเห็น หรือบางคนเริ่มเห็นแต่ยังไม่มั่นใจว่าจะดีต่อเนื่องแค่ไหน ถ้าเรารีบเข้าไปทำการบ้านและวิเคราะห์ให้ละเอียดก่อนคนอื่นก็จะเปิดโอกาสการลงทุนได้ก่อนใคร

 

3. ค่าใช้จ่ายที่ลดแล้วลดเลย

ช่วง COVID เป็นช่วงที่ยอดขายไม่มา กำไรไม่มี สิ่งที่หลายบริษัททำคือ ลดค่าใช้จ่ายที่เคยคิดว่าจำเป็น แต่จริงๆ แล้วไม่ต้องมีก็ได้ออกไป เช่น ลดพนักงานบางส่วน ลดค่า OT ติดตั้ง Solar Roof ลดค่าโฆษณาที่ไม่จำเป็น ลดขนาดออฟฟิศลง หรือจ้าง outsource ทำงานบางอย่างให้แทน

 

พอคลาย lock down กลับมาในแต่ละช่วง ให้เรารีบสังเกตทั้ง SG&A ที่เป็นตัวเงิน และ SG&A/Sale ที่เป็นเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ยังคงลดลงต่อเนื่องได้หรือเปล่า และถ้าธุรกิจไหนไปดูให้เห็นด้วยตาตัวเองได้ ก็ควรไปสำรวจ เราก็อาจจะพบว่า ร้านอาหารใช้พนักงานเสิร์ฟลดลง โรงพยาบาลไม่มีคนเล่นเปียโนแล้ว โรงงานเปลี่ยนคนขับรถเป็นจ้าง outsource แทน เป็นต้น ก็จะเป็นสัญญาณที่ดีของกำไรที่น่าจะดีขึ้นได้เช่นกัน

 

4. สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่หายไป 

หลายคนมักมองข้ามบรรทัดภาษี เพราะคิดว่า ก็คงเป็น 20% เหมือนที่เก็บภาษีนิติบุคคลทั่วไป หรือบางทีก็มองว่าไม่มีนัยยะเท่าไหร่ เป็นอะไรที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงบางบริษัทได้รับสิทธิพิเศษ เช่น BOI ยกเว้นภาษี หรือ เอาผลขาดทุนบริษัทลูกมาลดหย่อน หรือเอาสิทธิการลงทุนเครื่องจักรมาลดหย่อนก็มี 

 

พอเรามองข้ามไป บางทีเจอแจ็กพอตว่า รายได้ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย ทุกอย่างดูเป็นปกติหมด แต่กำไรลดลงเยอะ พอไปดูดีๆ ถึงได้พบว่า สิทธิ BOI หมดพอดี และต่ออายุไม่ได้ แบบนี้ก็จะมีผลกับกำไรในอนาคตได้เช่นกัน

 

โดยสรุปแล้ว การอ่านงบการเงินให้ทำกำไร เราจะมองแต่แค่ตัวเลขที่เห็นชัดเจนอาจไม่พอ 

 

แต่เราต้องมองให้ลึกถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ข้างในนั้นด้วยว่า ที่เป็นแบบนี้เพราะอะไร 

 

รายละเอียดระหว่างบรรทัดอาจมีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ให้เราค้นหาก็เป็นได้


ผู้ชนะแข่งขันโครงการ Stock Writer ของ stock2morrow

https://www.facebook.com/pg/stock.vitamins

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง