#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

3 เหตุผล ทำไมนักลงทุนไม่ควรมองข้าม SCB

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
185 views

หลังจากการเปลี่ยนโครงสร้างจากธนาคาร "ดั้งเดิม" สู่การเป็น Digital Banking เต็มตัว พร้อมกับประกาศลงทุนใน Fintech Start-up จำนวนมาก
ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า เราควรประเมินมูลค่าที่เหมาะสมสำหรับบริษัทใหม่อย่าง SCBX อย่างไรดี ?

อยากนำมาเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ ...


3 เหตุผลสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตา SCB คือ

1. SCB กำลังก้าวเป็น Digital Banking & Fintech Start-up
ฝ่ายวิจัยเคจีไอมองว่าธนาคารประเภทดั้งเดิม (Conventional bank) อาจจะไม่เพียงพอต่อยุคสมัยที่เปลี่ยนไป และนักลงทุนไม่ควรให้มูลค่าสูงมากเกินไป
... ในขณะเดียวกัน ถ้าธนาคารไหนมีการเปลี่ยนโครงสร้างไปเป็น  Digital Banking & Fintech Start-up  ควรจะมีมูลค่าที่สูงกว่านี้

จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ที่ COVID เริ่มระบาด มี Fintech หลายแห่งเกิดขึ้นมา และเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมูลค่าของเทคโนโลยีทําให้ธุรกิจดังกล่าวถูกตีมูลค่าไว้ในระดับที่สูงมากเฉลี่ย P/BV ที่ 3-9 เท่า

นั้นหมายความว่า SCB ควรจะมีมูลค่าที่สูงกว่านี้ ...


2. ความช่วยเหลือของแบงก์ชาติของไทย ทำให้แบงก์พาณิชย์แข็งแกร่ง
ฝ่ายวิจัยมองว่าแบงก์ชาติได้ออกมาตรการช่วยเหลือแบงก์พาณิชย์หลายด้าน ทําให้แบงก์สามารถจัดการและผ่านช่วงที่ยากลําบาก
ในด้านคุณภาพสินทรัพย์มาได้ และสามารถดําเนินธุรกิจต่อไปได้
ในขณะที่ SCB มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองในแง่ของการพัฒนาแพลตฟอร์ม และใช้ช่องทางที่หลากหลายเพื่อสร้างการเติบโต และพลวัตรของการเติบโตจากการจัดโครงสร้างองค์กรในรูปของบริษัท Holding Company

ฝ่ายวิจัยมองว่าที่ระดับนี้ SCB มีความโดดเด่นกว่าธนาคารอื่น ...


3. เป้าหมายของ SCB คือ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ไว้ที่ 1 ใน 3
หลังจากที่ SCB เป็น  Holding Company ตั้งเป้ามีรายได้จาก 3 ธุรกิจหลัก คือ

1. แยกธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคออกไปอยู่ภายใต้บริษัทในเครือ และผนึกพันธมิตร
 2. ขยายการลงทุนแบบ Venture Capital และเข้าลงทุนใน Fintech Unicorns เพื่อสร้างการเติบโตจากภายใน
3. เข้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลยุคใหม่

ทั้งนี้ในการดำเนินกิจการของบริษัท Holding Company ธนาคารจะโอนฐานเงินทุนจากธนาคารประมาณ 7 หมื่นล้านบาทไปที่บริษัท SCBX เพื่อซื้อบริษัทลูกที่แยกตัวออกจากธนาคารมูลค่ากว่า 19.5 พันล้านบาท


ฝ่ายวิจัยเคจีไอได้มีการ Re-rate หุ้น SCB ใหม่จาก 2 สมมุติฐาน คือ
1. เพิ่ม P/BV ที่ 3 เท่า สำหรับธุรกิจ Digital Banking ซึ่งจะสร้างรายได้และกำไรราวๆ 10% ของทั้งเครือภายใน 2 ปี (ปัจจุบันอยู่ที่ P/BV 1 เท่า)
ทำให้ได้ P/BV ที่เหมาะสมของหุ้น SBC ราวๆ 1.25 เท่า ...

 

2. ใช้ ROE ถ่วงน้ำหนักของ 3 หน่วยธุรกิจประกอบไปด้วย
>>> ธุรกิจธนาคาร 10.5%
>>> ธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภค และธุรกิจ 18%
>>> ธุรกิจลงทุนใน Fintech 20%

นั่นหมายความว่าราคาเหมาะสมของ SCB จะอยู่ราวๆ 163 บาท ที่สมมุติฐานค่า P/BV อยู่ที่ 1.2 เท่า

 

ถือเป็น Holding Company รายแรกของไทยที่มีการเปลียนโครงสร้างองค์กรแบบ "เป็นเรื่องเป็นราว"
ต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับนักลงทุนแล้วว่าจะมองอนาคตของ SCBX ไว้ที่มุมมองไหนครับ น่าสนใจลงทุนระยะยาวหรือไม่ ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

-----------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล

https://research.kgi.co.th/recom.nsf/0/EA14751019C89B07472587A60009D1CD/$file/Daily+Story_SCB_2021_12_09_th-thai.pdf


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง