สรุปสาระสำคัญ

• ข้อมูลจาก National Bureau of Statistics รายงานว่า ราคาผักในจีนพุ่งแรงถึง 30.6% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนเมื่อปีที่แล้ว
• ราคาหมุพุ่งแรง 12% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมในปีเดียวกัน
• ทางรัฐบาลจีนกำลังคุมเข้มอย่างต่อเนื่องเพราะเกรงจะกระทบกับอัตราเงินเฟ้อ และการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน
• ข้อมูลจากสถาบันวิจัย รายงานว่า ไม่ใช่แค่จีนอย่างเดียว แต่ราคาสินค้าเกษตรกำลังแพงขึ้นทั่วโลก

---------------------------------------------------------------

ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อยที่ราคาสินค้าเกษตรกำลังพุ่งแรงขึ้นทั่วโลก ...
ถามว่าทำไมเราต้องให้ความสนใจขนาดนั้น เป็นเพราะว่าสินค้าเกษตร พืชผัก อาหารการกิน เป็นปัจจัย 5 ที่มนุษย์ต้องบริโภคทุกวัน
ถ้าราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น แน่นอนว่ากระทบกับค่าครองชีพของประชาชนที่ต้องจ่ายแพงขึ้น

ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อาจจะกระทบกับกลุ่มคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้รถ ใช้ถนน
แต่สำหรับสินค้าเกษตรแล้วกระทบกับคนทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นเราจะเห็นว่ารัฐบาลของแต่ละประเทศ จะพยายามดูแลไม่ให้สินค้าเกษตรแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่สำหรับประเทศจีน มันเกิดขึ้นแล้ว ....
ตามรายงานของ National Bureau of Statistics รายงานว่าราคาผักสดของจีนแพงขึ้นถึ 30.6% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนของปี 2020
โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม ปี 2021 ผ่านมาเพียงเดือนเดียว แพงขึ้นถึง 15.9% สาเหตุมาจากน้ำทั่วมและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้ยากต่อการเพาะปลูก
... ส่งผลกระทบต่อมาเดือนพฤศจิกายน ราคาผักพุ่งขึ้นมาถึง 6.8%

สาเหตุที่ทำให้ราคาพืชผักในประเทศจีนพุ่งขึ้น มาจาก 3 เหตุผลด้วยกัน
1. ความต้องการช่วงปลายปี (Seasonal Demand) ปิดปีใหม่ความต้องการซื้อผักพุ่งสูงขึ้นทุกปีเป็นปกติ

2. ช่วงวิกฤตโควิด เริ่มเปิดประเทศ คนเริ่มกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น เป็นความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างเร็วในระยะสั้น (Pent Up Demand)

3. ช่วงโควิด ทำให้เกษตรกรมีต้นทุนในการปลูกผักมากขึ้น ปุ๋ย เมล็ด น้ำ ค่าแรง พุ่งสูงขึ้นมากด้วยเช่นกัน

Dong Lijuan นักวิเคราะห์เศรษฐกิจของจีนจากสถาบัน NBS แสดงความคิดเห็นว่าเป็นเหตุการณ์ "ประจวบเหมาะ" พอดี ที่ทั้ง 3 เหตุผลมาพร้อมกันทำให้ราคาผักของจีนพุ่งสูงขึ้นถึง 30.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนพฤศจิกายนเมื่อปีที่แล้ว ถือว่าเพิ่มขึ้นมาสูงมาก
ในขณะที่ GDP ของจีน ปี 2021 คาดว่าน่าจะเติบโตได้ประมาณ 3% (เทียบกับปีที่แล้วที่โต 3.5%)

ในปี 2022 ทางรัฐบาลจีนตั้งเป้าให้เศรษฐกิจของจีนเติบโตประมาณ 5% และเงินเฟ้ออยู่ที่ 3%

Julian Evans นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบัน Capital Economics มองว่าการเพิ่มขึ้นของราคาผักครั้งนี้ของจีนเป็นเรื่องชั่วคราว เมื่อเข้าสู่ปี 2022 เชื่อว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ราคาผักจะถูกลง
"เราจะเห็นว่าพอเข้าสู่ช่วงปลายปี สินค้าโภคภัณฑ์หลายอย่าง เช่น ถ่านหิน และเหล็กมีราคาที่ลดลง จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของจีนลดลง ต้นทุนการผลิตถูกลง พืชผักจะเห็นผลตามมาทีหลังจากการปรับตัวของราคาพลังงานที่ลดลง
... ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าราคาผักที่สูงขึ้นจะอยู่ได้ไม่นาน"

ไม่ใช่เพียงแค่ราคาผักเท่านั้น ยังมีสินค้าผลิตผลทางการเกษตรอีกมากที่ราคาขึ้นมามากอีกด้วย เช่น
>>> ราคาเนื้อหมู 12.2%
>>> ราคาไข่เพิ่มขึ้น 20.1%

นักวิเคราะห์จาก CNBC แสดงความเห็นว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่เห็นอยู่ตอนนี้ยังเติบโตได้ไม่เป็นไปตามความจริง เพราะถูกรัฐบาลกดเอาไว้
ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะได้เห็นเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอีกมากในประเทศจีน
อย่างไรก็ตามด้วยราคาผักที่เห็นอยู่ คิดว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติภายในปีหน้า
และเศรษฐกิจจีนจะมีแนวโน้มเติบโตประมาณ 5% ท่ามกลางการเข้ามาคุมเข้มของรัฐบาลจีน

ข้อมูลจาก  Food and Agriculture Organization of the United Nations ยังแสดงความกังวลว่าราคาสินค้าเกษตรที่แพงขึ้น ไม่ใช่ที่จีนอย่างเดียว แต่กำลังแพงขึ้นทั่วโลก

-----------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.cnbc.com/2021/12/09/chinas-vegetable-prices-surge-30point6percent-in-november-as-food-costs-soar.html

https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-12-09/china-factory-inflation-slows-in-november-from-26-year-high

https://www.scmp.com/economy/china-economy/article/3158989/china-inflation-consumer-price-growth-accelerates-factory

https://www.hortidaily.com/article/9378302/wholesale-price-of-chinese-vegetables-is-going-up/