Short Against Port หรือที่นักลงทุนชอบเรียกว่า SAP คือการเทขายหุ้นออกไปก่อนเมื่อหุ้นขึ้น เมื่อหุ้นราคาต่ำลงมาแล้ว ค่อยเอาเงินที่เราขายออกไปกลับมาซื้อคืน
ตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีหุ้นอยู่ 100 หุ้นที่ราคา 10 บาท = 1,000 บาท
ถ้าหุ้นขึ้นไป 11 บาท เราขายออกไปก่อน 50 หุ้น เราจะได้เงินมา 550 บาท
เมื่อหุ้นลงมาถึง 9 บาท เราค่อยเอาเงิน 550 บาท (ที่ขายไปในตอนแรก) กลับมาซื้อคืนจะได้ 61 หุ้น (550 หารด้วย 9)
เท่ากับว่าเราจะมีหุ้นในพอร์ตเพิ่มขึ้นเป็น  111 หุ้น (เพิ่มขึ้นมา 11 หุ้น ด้วยเงินจำนวนเท่าเดิม)

เห็นไหมครับ มันดูง่ายไปหมด ซื้อต่ำ ขายสูง เราก็ได้หุ้นเพิ่มแบบฟรีๆแล้ว ...
แต่เราต้องเข้าใจก่อนว่า การทำ  Short Against Port เหมาะแก่สภาพตลาดที่อยู่ในรอบของขาขึ้น
เพราะเวลาหุ้นขึ้น รูปแบบของราคา คือ ยก Low สูงขึ้น ทำ High ใหม่เรื่อยๆ การเก็งกำไรลักษณะนี้จะทำให้เรามีหุ้นเพิ่มขึ้น ได้กำไรมากขึ้น

แต่ปัญหา คือ ถ้าหุ้นมันลงต่อละ เหลือ 8 บาท ... 7 บาท ... 5 บาท เท่ากับว่าที่เรากำลังทำ SAP อยู่นั้น คือ "ดอย"
ในอีกกรณีหนึ่ง ถ้าเราขายไปที่ 11 บาท แล้วหุ้นกลับขึ้นต่อไปเรื่อยๆ เท่ากับว่าเป็นการ "ขายหมู" ไปด้วยนั้นเอง

ดังนั้นเวลาจะ Short Against Port ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะตามมาด้วย

แล้ว Short Against Port สามารถใช้ในตลาดขาลงได้ไหม
จริงๆวิธีนี้ นักลงทุนรายย่อยก็หันมาใช้กันเยอะ เพราะคิดว่าไม่อยากใส่เงินก้อนใหม่ลงไป เอาเงินก้อนเดิมยอมขายขาดทุนไปก่อนเพื่อถือเงินสดเอาไว้ช้อนซื้อข้างล้าง
วิธีนี้จะทำให้เราซื้อหุ้นได้มากขึ้น และทำให้ต้นทุนของดอยเราลดลง
แต่เราก็ต้องไม่ลืมว่า หุ้นอยู่ในสภาวะขาลง คือ ทำจุดต่ำสุดใหม่เรื่อยๆ เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าการซื้อครั้งที่สองของเราจะไม่เป็นการทำให้เราดอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และต้นทุนของเราก็ยังสูงอยู่ดี

ดังนั้น การทำ Short Against Port ในตลาดขาลง สามารถทำได้ครับ
แต่เราต้องมั่นใจระดับหนึ่งว่าหุ้นที่เราจะ SAP ในขาลงนั้นเป็นหุ้นพื้นฐานดีจริงๆ