ใครจะไปคิดว่า ธุรกิจ Food Delivery หรือบริการขนส่งอาหาร จะเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้ จนกลายเป็นเรื่องปกติไปเรียบร้อยแล้ว
โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดอย่างรุนแรง ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องออกคำสั่งล็อคดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ธุรกิจ Food Delivery แทบจะกลายเป็นพระเอกในช่วงปิดเมืองเลยก็ว่าได้
เมื่อมีคำสั่งจากภาครัฐ ว่าห้ามรับประทานอาหารที่ร้าน ให้นำกลับไปกินที่บ้านได้อย่างเดียว บริการขนส่งอาหารจึงเป็นทางออกเดียวที่จะทำให้เราได้กินอาหารตามที่ต้องการ
แถมเราก็ไม่ต้องออกจากบ้าน เป็นการลดความเสี่ยงติดเชื้อไปในตัวอีกด้วย
นั่นจึงทำให้ ธุรกิจ Food Delivery โตระเบิดในท่ามกลางยุคโควิด-19 สวนทางกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่โดนผลกระทบกันถ้วนหน้า
หากเรามาดูมูลค่าการตลาดของธุรกิจบริการขนส่งอาหารของประเทศไทย ย้อนหลัง 5 ปี จะพบว่ามีการเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ
ปี 2560 มูลค่า 53,000 ล้านบาท
ปี 2561 มูลค่า 58,000 ล้านบาท
ปี 2562 มูลค่า 61,000 ล้านบาท
ปี 2563 มูลค่า 68,000 ล้านบาท
(คาด) ปี 2564 มูลค่า 74,000 ล้านบาท
จึงไม่แปลกเลย ที่หลายคนจะเริ่มเห็น “แพลตฟอร์ม” Food Delivery ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาอย่างมากมายในช่วงหลัง แม้กระทั่งบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย ก็กระโดดเข้าสู่ธุรกิจนี้เช่นกัน
ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดของธุรกิจนี้ เราพอจะมีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงการนี้ ในฐานะ “เจ้าของ” แอปฯสั่งอาหารได้หรือไม่
คำตอบ คือ ได้ครับ แถมเราไม่ต้องเข้าไปบริหาร ไม่ต้องคอยสั่งการ ไม่ต้องคอยดูแลระบบให้ยุ่งยาก เพราะเราจะได้เป็นเจ้าของธุรกิจผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนผ่านการระดมทุนผ่านประชาชนหมู่มาก หรือ Equity Crowdfunding
ซึ่งบริษัทที่กำลังจะเปิดให้คนทั่วไประดมทุนคือ บริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด ผู้เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มบริหารจัดการร้านอาหารอย่าง “eatsHUB” นั่นเอง
วันนี้ เราจะพาไปรู้จัก eatsHUB กันให้มากขึ้นครับ
1. eatsHUB แพลตฟอร์มที่เป็นมากกว่า Food Delivery
eatsHUB นั้นเป็นแอปพลิเคชั่นเพื่อให้ร้านอาหารได้มีเครื่องมือที่จะยกระดับการทำงาน การบริหารจัดการเรื่องสำคัญๆของร้าน นอกจากมีแค่ระบบการสั่งอาหารกลับบ้าน
และสิ่งที่สำคัญที่คือสุด คือ การสร้างความยั่งยืน ด้วยการสร้างฐานลูกค้าให้แก่ร้านอาหาร พร้อมกับระบบการบริหารจัดการข้อมูลที่ถูกต้อง และมีการใช้ Direct Marketing ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดย eatsHUB จะมีทั้งแอปพลิเคชั่น ที่จะใช้ได้ทั้งกับ Smartphone, Tablet, Laptop, Browser และ Call Center ที่มีฟังก์ชั่นทำงาน 6 แบบ ได้แก่
1) การสั่งอาหาร, 2) ระบบ POS, 3) ระบบ Cloud Telephony, 4) ระบบ Back of House, 5) ระบบ CMS, และ 6) ระบบ Dine-in Reservation
ซึ่งการทำงานทั้งหมดนี้ จะช่วยสร้างเสริมประสิทธิภาพให้แก่ร้านค้า และประสบการณ์การใช้ Food Delivery ให้แก่ลูกค้า เพื่อเป็นการสร้างการเติบโตให้ครบวงจรแก่ร้านอาหารนั่นเอง
2. จุดที่เหนือกว่าคู่แข่ง
ในปัจจุบัน อุตสาหกรรม Food Delivery ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันที่เข้มข้นอย่างมาก อีกทั้งเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอยู่ในระดับสูง อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนต้องเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต โดยเน้นการอาศัยอยู่บ้านหรือคอนโดเป็นหลัก
ทำให้ธุรกิจ Food Delivery ได้รับอานิสงส์จากพฤติกรรมดังกล่าว โดยจากรายงานพบว่ายอดการสั่งซื้ออาหารในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น Gross Merchant Value (GMV) มีการเติบโตขึ้นถึง 183% ในปี 2020
ซึ่งยอดการเติบโตดังกล่าวนี้ ประเทศไทยมีการสั่งซื้ออาหารผ่าน Food Delivery เป็นอันดับสอง ด้วยมูลค่า GMV ที่ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรองเพียงแค่ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีมูลค่า GMV ที่ 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ของไทย ต้องกระโดดลงสู่สังเวียน Food Delivery เหมือนที่เราได้เห็น SCB ทำแพลตฟอร์ม Robinhood ออกมา Shopee ก็มีบริการส่งอาหารอย่าง ShopeeFood ในขณะที่ True ก็เปิดตัว Truefood เข้ามาบุกตลาดเช่นกัน
ด้วยการแข่งขันภายในอุตสาหกรรมที่รุนแรง ทำให้แพลตฟอร์ม eatsHUB จำเป็นจะต้องสร้างความแตกต่างของตัวเองจากคู่แข่งเจ้าอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- eatsHUB multi - platform ที่จะสร้างลูกค้าและความต้องการให้ร้านอาหารในเครือข่าย
- Back of House การบริหารจัดการงานหลังร้านเพื่อเพิ่มยอดขาย และลดต้นทุนการทำงาน
- Customer insight information จะเป็นของร้านค้า เพื่อสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ และโอกาสขยายธุรกิจ
- องค์ความรู้ด้านการขายและการตลาดที่ออกแบบในแพลต์ฟอร์ม ที่จะช่วยยกมาตรฐานของร้านอาหาร
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ได้มีการวางเป้าหมายในการใช้กลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อที่จะสื่อสารอออกไปสู่กลุ่มลูกค้า ทั้งฝั่งที่เป็นร้านค้า และผู้บริโภค เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเกิดการตระหนักรู้ของ eatsHUB และสร้าง Lead Generation ให้เกิดผู้ใช้งานบนแอปพลิเคชั่น
ซึ่งจะเป็นการสร้างฐานลูกค้าทั้ง 2 ฝั่งให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้าง eco-system ที่ยั่งยืนของ eatsHUB นั่นเอง
3. พันธมิตรทางธุรกิจที่ไม่ธรรมดา
อีกจุดที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ พันธมิตรทางธุรกิจของ eatsHUB นั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะว่าเจ้าของแพลตฟอร์มอย่างบริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด เกิดจากการรวมตัวกันจากกลุ่มคนที่มีประสบการณ์ทำงานในด้านต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นด้านที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารระบบเทคโนโลยี ด้านการเงิน ด้านการบริหารจัดการ ด้านการขายและตลาดแบบตรงถึงผู้บริโภค เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวกันของบรรดาหัวกระทิในด้านต่างๆเลยก็ว่าได้
โดยบริษัทฯ ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ ABPO Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ในการเป็นผู้ให้บริการด้าน Software ในระบบ Telephony ให้แก่แอปพลิเคชั่น eatsHUB
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้จับมือกับ EATLAB ในการให้ EATLAB เป็นผู้ให้บริการด้านระบบ AI ในการช่วยพัฒนาระบบฟังก์ชันให้แก่ร้านค้าที่เข้ามาใช้บริการบนแอปพลิเคชั่น eatsHUB อีกด้วย
ในส่วนของ software development ทางบริษัทฯ ได้เป็นพาร์ตเนอร์กับ SOFT DE’BUT ซึ่งเป็นบริษัทฯ ที่ให้บริการด้านการพัฒนาระบบ software และ Digital Security โดยที่ source code ทั้งหมดทางบริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด จะเป็นเจ้าของ
และทั้งหมดนี้ คือ บทสรุปที่น่าสนใจของแพลตฟอร์มที่เป็นได้มากกว่าแค่รับส่งอาหารโดยฝีมือคนไทย ที่มีชื่อว่า eatsHUB ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทฯเองก็กำลังอยู่ในช่วงระดมทุนผ่าน Crowdfunding
หมายความว่า นี่คือโอกาสของประชาชนทั่วไปที่จะได้เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มในธุรกิจที่โตมากที่สุดในช่วงนี้อย่าง Food Delivery
สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะร่วมเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม eatsHUB ผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนผ่านการระดมทุนผ่านประชาชนหมู่มาก หรือ Equity Crowdfunding นั้น
ผู้ที่สนใจร่วมลงทุนใน eatsHUB สามารถเข้า Investor Roadshow นำเสนอแผนธุรกิจเพื่อการลงทุน โดยมีปฎิทิน roadshow ดังนี้
พุธ 15 ธันวาคม 64 เวลา 19.00 น.
พฤ 23 ธันวาคม 64 เวลา 19.00 น.
ลงทะเบียนทาง equity.sinwattana.com/eatshub
หรือ https://bit.ly/3Gk7ne4
ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม ลงทะเบียนเพื่อจองสิทธิ์
1. เข้าเว็บไซต์ https://equity.sinwattana.com/th/accounts/register
2. กดเมนู สมัครสมาชิกเป็นนักลงทุน
3. กรอกข้อมูล
4. ตรวจสอบอีเมล และกด Activate Account
5. ทำแบบทดสอบความรู้ ความเข้าใจความเสี่ยง
6. กรอกข้อมูลการจองให้ครบถ้วน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
Website – equity.sinwattana.com
Linkedin – https://www.linkedin.com/company/sinwattana
Line OA – https://lin.ee/sApycsx / @sinwattanaCF
Email – [email protected] or [email protected]
Tel – +6683-728-5585
Reference
https://www.bangkokbanksme.com/en/e-commerce-with-fair-online-rules
หนังสือชี้ชวนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนผ่านการระดมทุนผ่านฝูงชน (Equity Crowdfunding) ของ บริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด