1.
คำถามที่รายย่อย ถามกันเยอะมากที่สุดในช่วงเวลานี้ น่าจะเป็นการเพิ่มทุนของ "หุ้น MAKRO"
ที่กำลังเปิดให้จองซื้อพร้อมชำระเงิน ณ บัดนาวนี่เอง (ภายในวันที่ 4-9 ธ.ค.)
เหลือเวลาอีกเพียง 4 วันเท่านั้นจร้า  

2.
ในมุมนึง ถ้าหุ้น MAKRO เป็นหุ้น IPO (Initial Public Offering) ที่เป็นการเข้ามาในตลาดหุ้นครั้งแรก
อันนี้ง่ายเลย แบบนี้ใครมีสิทธิจอง ก็ควรจองครับ
-> เพราะหุ้น IPO ส่วนใหญ่ไม่ค่อยตกถึงมือรายย่อย
-> เพราะหุ้น IPO ยังไม่มีราคาอ้างอิง โอกาสที่ 2-3 วันเทรดแรกที่เข้าตลาดมา จะวิ่งไกลๆด้วยแรงส่งใดๆก็ตาม มีโอกาสสูง
-> เพราะหุ้น IPO ได้ความสดใหม่ เหมือนเด็กสาวหน้าตาดี เพิ่งเรียนจบใหม่ เดินเข้ามาในออฟฟิศ รุ่นเพื่อนรุ่นพี่ไม่มีข้อมูลอะไร ก็มักจะพร้อมลุยจีบ มีแต่ข้อมูลดีๆ ได้พื้นที่หน้าสื่อเต็มที่ นักลงทุนรายย่อยมาตอมกันตรึม หุ้นขนาดกลางๆยังสามารถมีวอลุ่มเทรดเป็นอันดับ1 ได้ในวันเทรดวันแรก
ดังนั้นการได้หุ้น IPO ที่กิจการพื้นฐานดี มีสตอรี่ มีชื่อชั้นดี โอกาสแพ้มันยากมากๆ

3.
หุ้น MAKRO ไม่ใช่ Initial PO
แต่เป็น PO(Public Offering) เฉยๆ
เป็นหุ้นที่มีอยู่ในตลาดหุ้นอยู่แล้วมาช้านาน
เหมือนสาวสวยที่ทำงานมาแล้วหลายปี รุ่นเพื่อนรุ่นพี่ รู้จักดีอยู่แล้ว
ไม่ได้ว้าว หรือสด ตาใส แก้มแดง โอกาสผู้คนมารุมจีบแบบขึ้นเทรดวอลุ่มอันดับ 1 มันก็จะยากหน่อย
ตัวหุ้นมีข้อมูลอ้างอิง มีอดีต มีงบการเงินย้อนหลัง มีราคาอ้างอิง ฯลฯ
พื้นที่ข่าวก็อาจจะจำกัด ไม่เหมือนหุ้นปั๊มน้ำมัน กับหุ้นสินเชื่อจำนำทะเบียน ที่เหมือนดาวมหาลัยเดินเข้ามาในออฟฟิศ แย่งกันจีบแย่งกันจอง
และราคาวันแรกๆ ก็คืนกำไรให้ผู้ที่ได้ IPO จริงๆ

4.
แต่ to be fair กับสาวสวยชื่อ MAKRO คนนี้
ต้องเข้าใจว่า เธอมารอบนี้ไม่เหมือนเดิมนะ
การได้กิจการ LOTUS เข้ามาผนวกนี่คือ การรวมร่าง ให้เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล สวยงามขึ้นแบบผิดหูผิดตา
-> MAKRO คือ No.1 ค้าส่ง
-> LOTUS ก็คือ No.1 ของห้างไฮเปอร์มาร์เกต ค้าปลีก แถมยังมีพื้นที่เช่า ที่สร้างกำไรอีกไม่น้อยเลย  
ไหนจะการทำ Synergies อะไรอีกมากมาย

5.
ราคา PO ที่ประกาศออกมา 43.50 บาท
นักลงทุนรายย่อยจึงนำมาเปรียบเทียบกับราคาตลาดบนกระดานได้ทันที
ว่ามีส่วนลดให้เท่าไหร่ จะจองดีหรือไม่ดี
โดยเฉพาะคนที่ชอบขายหุ้น IPO ตั้งแต่วันแรกทันทีเพื่อทำกำไร
แน่นอนว่า หนึ่งในเสียงตอบรับของรายย่อยคือ “ราคาเพิ่มทุนมันแพง...มันชิดกระดาน...มันแทบไม่มีส่วนต่างให้” เพราะมี Gap ให้ 2 บาทเท่านั้น (ราคากระดาน 45.50) คิดเป็นผลต่างแค่ 4.6%

6.
คหสต. ผมคิดว่าราคา 43.50 บาท แม้จะไม่ได้ราคาถูกแบบให้ Gap เยอะๆ
แต่ก็ไม่ได้แพงนะ กิจการเขาใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว
อีกทั้ง ราคานี้ คือราคาแบบลดความเหลื่อมล้ำ เท่าเทียมกันทุกหมู่เหล่า
-> รายย่อยซื้อเพิ่มทุนจากสิทธิหุ้นเดิมCPF/CPALL/MAKRO
-> รายย่อยจองPO
-> นักลงทุนสถาบัน
-> และยังเป็นราคาเดียวกับ Swap Price ช่วงที่เขาออกหุ้น PP เพื่อรับโอนกิจการโลตัสมาจาก CPH (ซีพีโฮลดิ้ง)ด้วยนะ

7.
“รายย่อย” ที่กำลังจะตัดสินใจในการเอาเงินสด
ไปแลกหุ้น MAKRO ตอนนี้มี 2 กลุ่ม
(1) ผู้ถือหุ้นเดิมของหุ้น MAKRO CPF และ CPALLได้สิทธิในการจองซื้อหุ้น
(2) ผู้ถือหุ้นทั่วไป สามารถมาจองซื้อหุ้นได้ผ่านธนาคาร BBL และ SCB เรียกว่าหุ้น PO (Pulbilc Offering)
คนในข้อ (1) สามารถจองได้ทั้ง (1) และ (2)
คนในข้อ (2) จองได้เฉพาะข้อ (2)

8.
กล่าวโดยสรุป
-> ถ้าเราเชื่อ...ธุรกิจที่จะขยายไป
(ซื้อกิจการ LOTUS | ขยายช่องทางอื่นๆ | บริหารทางการเงิน)
เชื่อในธุรกิจค้าปลีก เชื่อใน Format ห้างค้าส่งค้าปลีกและพื้นที่เช่า ว่าจะสร้าง long term wealth แบบนี้ก็น่าซื้อเพิ่มทุน
-> ถ้าไม่เชื่อ...ในตัวธุรกิจปัจจุบันและอนาคต ก็คงไม่สนถือระยะยาว ...ก็อาจพิณาฯที่ตัวราคาเพิ่มทุนว่าน่าสนใจไหม ถ้าไม่สนใจก็ไม่เพิ่ม ถ้าสนใจว่าอย่างน้อยมีแกปให้ คุ้มดอกเบี้ยอยู่ ก็เพิ่มครับ