ภาพใหญ่ของการลงทุนให้ได้ดี สิ่งสำคัญคือ "แนวคิดที่ถูกต้อง"
นี้เป็น แนวคิด 7 ข้อมือใหม่ต้องรู้ มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. การลงทุน คือ แผนการระยะยาวที่จะซื้ออิสระให้กับชีวิต
เวลาเราลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้อง "มองภาพยาว"
2. อยากชนะตลาด สิ่งที่ต้องมีคือความขยัน
จะทำผลตอบแทนชนะตลาดได้ สิ่งแรกที่ต้องมีคือ ความขยัน
ขยันในการค้นหาหุ้น ทำการบ้านหุ้น หาให้เจอก่อนคนอื่น ซื้อก่อนคนอื่น เห็นในขณะที่คนอื่นไม่สนใจ เมื่อหุ้นนั้นกลายมาเป็นที่สนใจเราจะสร้างผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำและจะชนะตลาดได้ในระยะยาว
3. สไตล์การลงทุนแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราไม่จำเป็นต้องเลียนแบบคนอื่น
สไตล์การลงทุนแต่ละคนไม่เหมือนกันซึ่งเราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเริ่มลงทุนไปสักระยะหนึ่งแล้ว จะมีการปรับลักษณะของการลงทุนเป็นอัตลักษณ์ของเราเอง
>> บางคนอาจจะแยกเป็น 2 พอร์ต พอร์ตแรกถือยาว อีกพอร์ตเล่นรอบ
>> บางคนชอบซื้อหุ้นแล้วรับปันผล เมื่อได้ปันผลมาก็นำกลับไปซื้อเพิ่ม
>> บางคนชอบเล่นหุ้นขนาดเล็ก หุ้น Penny Stock ที่ขึ้นลงหวือหวา รับความเสี่ยงได้สูง
>> บางคนชอบเล่นหุ้นวัฐจักร 5 ปี เล่นครั้งเดียว ก็มีเหมือนกัน
ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่นก็สามารถประสบความสำเร็จได้
4. จากข้อ 3. ทำให้เราคิดว่าไม่ควรซื้อหุ้นตามเซียน
เพราะด้วยสไตล์แต่ละคนไม่เหมือนกัน การซื้อหุ้นตามเซียนหรือตามคนอื่น เป็นความผิดพลาดของตัวเราเอง เราไม่อาจจะรู้ได้ว่าเซียนคนนั้นซื้อเพราะอะไร เขาต้นทุนอยู่ที่เท่าไร บางครั้งเขาอาจจะขายออกไปแล้วแต่ไม่เคยออกมาบอก เท่ากับว่าเรายังถือมันอยู่ทั้งที่คนที่เราตามตั้งแต่แรกเขาขายออกไปแล้ว
5. อย่าคาดหวังว่าจะได้กำไรทุกเดือน
เวลามือใหม่เข้าตลาดหุ้นมา มักจะตั้งเป้าว่าขอกำไรเดือนละ 2% ก็เพียงพอแล้ว ครบปีได้ผลตอบแทน 24% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงมากขนาดว่านักลงทุนระดับโลกยังทำผลตอบแทนขนาดนั้นไม่ได้ในบางปี
... การลงทุนไม่มีคำว่า "กำไรทุกเดือน" เพราะบางเดือนเราอาจจะขาดทุนหนัก บางเดือนกำไรมาก บางเดือนไม่ได้อะไรเลยก็มี เว้นแต่ว่าเราจะคำนวนว่าซื้อหุ้นเพื่อหวังปันผล คาดเดาว่าปีนี้น่าจะได้ปันผลประมาณนี้แบ่งแต่ละเดือนออกมาเท่าไร แบบนี้ยังพอคาดหวังได้
6. มองโลกในแง่บวก สำคัญมาก
เมื่อเราไม่ได้กำไรทุกเดือน เท่ากับว่าจะมีบางจังหวะที่ผลตอบแทนเราจะย่ำแย่ แน่นอนว่าทุกคนต้องเจอกับเหตุการณ์นี้ ตลาดจะทดสอบเราว่าเรายังมีศักยภาพเพียงพอในการอยู่ในหุ้นได้หรือไม่ ดังนั้นการอยู่ในสภาพแวดล้อมของคนที่มองโลกในแง่บวกเป็นเรื่องสำคัญมาก
7. จิตใจที่แข็งแกร่งสำคัญกว่าความรู้ในการลงทุน
เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนมีความรู้ทางการลงทุนมาก รู้จักบริษัทแทบทุกตัวในตลาดหุ้น อ่านงบดุล ดูผลประกอบการ ดูกราฟเทคนิเคิลได้ แต่กลับไม่เคยสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำในการลงทุนได้เลย เป็นเพราะว่าเวลาที่ตลาดโดนเทขายหนัก ถล่มหนักๆ เขาก็ขายทิ้งตลอดและกลับมาเมื่อตลาดสดใสแล้ว แสดงว่าเขาเป็นคนมีความรู้มาก แต่ไม่ได้มีจิตใจที่เข้มแข็งมากเพียงพอ เป็นคนขี้ตกใจและพร้อมจะขายทุกสิ่งทุกอย่างในช่วงที่หุ้นตกแรง แสดงว่าเราไม่เหมาะสมที่จะลงทุนในหุ้น
ดังนั้น จิตใจที่แข็งแกร่งสำคัญกว่าความรู้ในการลงทุน ...