รู้หรือไม่ว่าในประเทศจีนจากเดิมมีอยู่ 2 ตลาดหลักทรัพย์ นั้นคือตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และ ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น
ทั้งสองตลาดนี้มีความแตกต่าง กันคือ ...
ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ มูลค่าตลาดกว่า 7.62 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น เป็นธุรกิจขนาดเล็ก SMEที่ต้องการเข้ามาระดมทุน ถ้าจะให้เทียบก็คล้ายๆ MAI บ้านเรา มีมูลค่ากว่า 5.24 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
และวันที่ 15 พฤษจิกายน นี้ ประเทศจีนก็ได้มีตลาดหุ้นแห่งที่ 3 คือ ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง หรือ Beijing Stock Exchange โดยทางการจีนตั้งเป้าให้เป็นตลาดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลางที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง (Little Giants) โดยในเบื้องต้นนั้นจะมีบริษัทกลุ่มแรกจำนวน 81 แห่งที่เริ่มการซื้อขายหุ้นในวันนี้ พร้อมมีบริษัทที่กำลังยื่นขอจดทะเบียนอีก 31 บริษัท รวมเป็น 112 บริษัทที่กำลังจะเข้ามาระดมทุนซื้อขายในตลาดหุ้นแห่งนี้
... การเปิดตลาดวันแรก ถือว่าได้รับการตอบรับอย่างดี โดยทางจีนเปิดเผยว่ามีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นอีก 2 ล้านบัญชี รวมมีนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งแล้วกว่า 4.1 ล้านคน
ทางรัฐบาลจีนเปิดเผยว่า การเปิดตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งถือเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับแนวความคิดของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เรื่องของ "Common Prosperity" หรือความเจริญร่วมกัน โดยที่ผ่านมาทางการจีนพยายามที่จะควบคุมเรื่องของการผูกขาด การศึกษา ธุรกิจประเภทปลาใหญ่ที่จะกินปลาขนาดเล็กให้มีกฏเกณฑ์ในการควบคุม เปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กได้มีพื้นที่ในการทำธุรกิจ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่นี้เป็นการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน (NEEQ) หรือ ที่รู้จักกันในชื่อตลาดหุ้นแห่งที่ 3 (New Third Board) และจะมีบทบาทที่แตกต่างออกไปจากตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น รวมถึงจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างตลาดหลักทรัพย์สองแห่งนี้ด้วย
ในวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมานี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้กล่าวว่า จีนจะจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ในกรุงปักกิ่ง เพื่อให้บริการแก่ธุรกิจ SME โดยปัจจุบัน จีนมีตลาดหลักทรัพย์ 2 แห่ง โดยอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน และอีกหนึ่งแห่งอยู่ในเมืองเซินเจิ้น โดยจีนจะเดินหน้าสนับสนุนการพัฒนา SME ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมต่อไป ผ่านการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งที่ 3 และกำหนดให้ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ให้บริการแก่ SME ที่มุ่งเน้นนวัตกรรม
อย่างไรก็ตาม เว็บไซด์ TheDiplomat แสดงความคิดเห็นว่า ถือเป็นประเด็นที่น่าติดตามกับการเปิดตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ของจีน ซึ่งนักลงทุนอาจจะมองว่าจะคล้ายกับตลาด NASDAQ หรือ Russell 2000 ของอเมริกาหรือไม่ จริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่เพราะตลาดเดิมอย่างเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นก็มีการรองรับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอยู่แล้ว
อย่างของเซี่ยนไฮ้มีตลาดที่เรียกว่า STAR Market
และของเซินเจิ้นมีตลาดที่เรียกว่า ChiNext อยู่แล้ว
จากนี้ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งจะออกมาเป็นรูปแบบไหน ยังต้องติดตามกันต่อไป ....
---------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-11-13/beijing-stock-exchange-launches-with-focus-on-little-giants
https://thediplomat.com/2021/11/introducing-the-new-beijing-stock-exchange/
https://asia.nikkei.com/Business/Markets/Beijing-Stock-Exchange-set-to-start-operation-on-Nov.-15