ถ้าพูดถึงความนิยมในเครื่องมือกราฟเทคนิเคิล เชื่อว่า RSI จะเป็นติด 1 ใน 3 เครื่องมือยอดฮิตที่นักลงทุนใช้กันเป็นจำนวนมากเนื่องมาจากว่าใช้งานง่าย ตีความได้ง่าย และที่สำคัญคนใช้กันเยอะจึงมีพลังมวลชนส่วนใหญ่มองไปในทิศทางเดียวกัน
นักลงทุนรู้มาว่า วิธีใช้ RSI อย่างง่ายๆมี 2 แบบด้วยกันที่นิยมใช้ คือ
1. บอก Overbought และ Oversold
เมื่อ RSI < 30 ราคาหุ้นโดนขายมากเกินไป (Oversold) นักลงทุนอาจจะหาจังหวะในการเข้าซื้อ
หาก RSI > 70 ราคาหุ้นโดนซื้อมากเกินไป (Overbought) นักลงทุนอาจจะหาจังหวะในการขาย
2. การดู Divergence คู่กับ RSI ดูง่าย เห็นง่าย และมีความน่าเชื่อถือ
RSI Divergences เกิดจากรูปแบบของกราฟราคาที่สวนทางกันกับเส้น RSI ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงการกลับตัวของราคาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มี 2 แบบ คือ Bullish Divergence และ Bearish Divergence
อย่างไรก็ตามสภาวะ Divergence เป็นแค่การบอกสถานะ "เฝ้าระวัน" ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเกิดขึ้นจริงๆ ...
นอกจาก 2 แบบที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว เรายังสามารถ "ดูรอบหุ้นด้วย RSI" ได้ ขึ้นอยู่ว่านักลงทุนเลือกใช้ Time Frame ไหน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วนักลงทุนประเภท "ชอบกินคำใหญ่" หาผลตอบแทนเป็นเด้ง มักจะใช้เป็นกราฟเดือน โดยวิธีมองเป็นแบบนี้ครับ
1. รอบใหญ่ของหุ้นจะมีจุดเริ่มต้นมาจากสภาวะที่หุ้น "โดนขายมากเกินไป" (Oversold) RSI < 30
2. เมื่อหุ้นโดนขายมากเกิน ไม่แกว่งตัวขึ้นไปบ้างทำให้นักลงทุนไม่สนใจจึงทำให้ราคาหุ้นแกว่งตัวออกข้างหรือที่เรียกว่า "ไซด์เวย์" (Sideway) นั้นเอง เพื่อสะสมกำลังในการเป็นขาขึ้นรอบใหม่
3. เมื่อหุ้นกลับตัวเป็นขาขึ้นจะวิ่งอย่างรุนแรง แต่อาจจะมีจังหวะ "พักตัวบ้าง" เพื่อสะสมกำลังวิ่งอีกรอบ โดยส่วนใหญ่แล้วถ้า RSI วิ่งขึ้นไปแตะ 70 (RSI > 70 ) แสดงว่าจบรอบแล้ว นักลงทุนอาจจะคิดถึงการเทขายทำกำไร
... เรามาดูตัวอย่างกราฟจริงกันครับ
หุ้น SCC ในกราฟรายเดือนช่วงปี 2008 ราคาหุ้นลงค่อนข้างแรงจนเกิดสภาวะ Oversold หลังจากนั้นพักตัวระยะ 7 เดือนจึงกลับตัวมาเป็นขาขึ้นจน RSI มาแตะระดับ 70 เกิดสภาวะ Overbought เป็นอันจบรอบ
ซึ่งหลังจากนั้น ราคาหุ้นอาจจะพักตัวเพื่อขึ้นต่อได้
หุ้น SCB ก่อนที่จะมีประเด็นเรื่องการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจมาเป็น SCBX ลงทุนในสตาร์ทอัพมากมาย แต่รู้หรือไม่ว่าช่วง COVID-19 ราคาหุ้นตกต่ำถึง 60 บาท แน่นอนว่า RSI < 30 แตะระดับ Oversold ช่วงนั้นนักลงทุนน่าจะรู้ดีว่าเต็มไปด้วยความกลัว หุ้นปรับฐานแรง ไม่มีใครคิดอยากจะซื้อหุ้น
แต่นั้นถือเป็นขาขึ้นรอบใหม่ของหุ้น SCB นั้นเอง ...
การดูรอบใหญ่ของหุ้นนั้นการมองย้อนหลังกลับไปเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แค่ซื้อแล้วถือก็ได้กำไรเป็นเท่าๆ แต่ปัญหาใหญ่คือ ระยะเวลาที่ต้องอดทนในการถือครองยาวนานมาก หุ้นบางหุ้นกว่าจะกลับตัวมาเป็นขาขึ้นได้ใช้เวลาเป็นปี แกว่งตัวออกข้าง ไม่ไปไหน
ดังนั้น การถือไว้เฉยๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นักลงทุนต้องจิตใจแข็งระดับหนึ่งครับ