#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

เศรษฐกิจไทยอาจจะติดหล่มไปจนถึงปี 2023

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
123 views

KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทร ได้คาดการเศรษฐกิจไทยปี 2021 มีโอกาสโต 3.9% โดยเศรษฐกิจจะยังอยู่ต่ำกว่าระดับก่อนโควิด-19 ไปจนถึงปี 2023  ถึงแม้ว่าปีหน้าจะเห็นการฟื้นตัวได้หลังเปิดเศรษฐกิจและเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และมีอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจกลับมาได้อย่างช้า ๆ และการฟื้นตัวยังคงมีความเสี่ยงอยู่
... โดยความเสี่ยงสำคัญที่ต้องจับตามี 5 ปัจจัยหลัก คือ
1. การระบาดรอบใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
2. การฟื้นตัวของนักท่อเงที่ยวที่มีอยู่อย่างจำกัด
3. อัตราเงินเฟ้อ
4. เศรษฐกิจจีนที่อาจจะยังไม่โตต่อไปอีกสักพัก
5. ทิศทางอัตราดอกเบี้ยไทย


การเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ นับเป็นการปรับเปลี่ยนทิศทางเชิงนโยบายครั้งสำคัญของภาครัฐไปสู่นโยบาย "อยู่ร่วมกับโควิด" (Living with Covid) แต่ข้อจำกัดในเรื่องของการท่องเที่ยวยังมีอยู่จาก 3 ปัจจัยหลัก คือ
1. การคงมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวของประเทศหรือดินแดนในฝั่งเอเชียส่วนใหญ่ที่เป็นแหล่งนักท่องเที่ยวหลักของไทยและคิดเป็นถึง 75% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงก่อนโควิด-19 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเอเชียจะยังคงเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลักและจะยังเข้ามาไทยในสัดส่วนที่น้อยกว่าช่วงสถานการณ์ปกติมาก

 

2. นักท่องเที่ยวจีนที่จะหายไปตลอดครึ่งปีแรกและอาจยังไม่กลับมากระทั่งปลายปี จากนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดของทางการจีน ในห้วงเวลาที่จีนจะจัดกิจกรรมสำคัญซึ่งรวมถึงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ และการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

 

3. การเดินทางโดยเครื่องบินที่จะยังเป็นอุปสรรคสำคัญ ทั้งจากจำนวนและเส้นทางเที่ยวบินที่ลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะเส้นทางบินระยะไกล และความกังวลต่อการเดินทางโดยเครื่องบินของนักท่องเที่ยวบางส่วน

ทาง KKP Research วิเคราะห์ว่า การเปิดประเทศอีก 3 เดือนที่เหลือจะยังไม่เห็นผลมากนักตลอดไปถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 ในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มทยอยกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งปีประมาณ 5.8 ล้านคน ต่ำกว่าระดับ 40 ล้านคนในปี 2019


>>> ในแง่ของเงินเฟ้อ
KKP Research คาดอัตราเงินเฟ้อจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.6% ตลอดปี 2022 แต่เสี่ยงเร่งตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 2% จากราคาน้ำมันที่อาจยืนอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง และทรงตัวไปเรื่อยๆในปี 2022 หากสถานการณ์ยืดเยื้อเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้คาดการณ์เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น มีการปรับราคาสินค้า บริการ และค่าจ้าง จนก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในภาวะที่เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว (stagflation risk) และยังกระทบต่อสถานะของกองทุนน้ำมัน
... อีกทั้งเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า จะส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้น และส่งผ่านผลกระทบเพิ่มเติมต่ออัตราเงินเฟ้อ

 

>>> เศรษฐกิจจีนก็ยังน่ากังวล
การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกยังเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย นอกจากการท่องเที่ยวแล้ว การส่งออกสินค้าไทยไปยังจีนสูงถึง 14% ของมูลค่าการส่งออกรวม คิดเป็น 6% ของ GDP และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นถ้าเศรษฐกิจจีนถดถอยลง อาจจะส่งผลกระทบต่อไทยในหลายมิติ การส่งออกสินค้าเกษตร สินค้าแปรรูป

 

>>> จับตาทิศทางดอกเบี้ย
KKP Research ประเมินว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ในปีหน้า และมีโอกาสจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ด้วยภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัวช้า คณะกรรมการนโยบายการเงินมีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับปัจจุบันจนกว่าภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยจะเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนในช่วงปลายปีหน้า อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่ กนง. อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายปี 2022 ได้ หากคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) ตัดสินใจเริ่มขึ้นดอกเบี้ยภายในช่วงครึ่งหลังของปี เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นเร็วกว่าที่คาด หรือการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่ประเมินไว้

 

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://drive.google.com/drive/folders/1JT3cob2aFJWJO4fxKbn9h3zrIhb9Bo8h?usp=sharing

--------------------------------------------------------

ขอบคุณข้อมูลจาก KKP Research


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง