ซื้อหุ้นยานแม่ เพราะชอบในวิสัยทัศน์ผู้บริหาร มียานลูกนักสิบลำขับเคลื่อนธุรกิจ อีก 5 ปี คาดหวัง Market Cap 1 ล้านล้านบาท แต่พอซื้อไป 5 วัน เห็นตัวแดงในพอร์ต ทนไม่ไหวขายทิ้งดีกว่า
ซื้อหุ้นท่องเที่ยว ร้านอาหาร กะจะเก็งกำไรธีมเปิดเมือง แต่ซื้อช้ากว่าคนอื่น ซื้อได้ที่ดอย พอร์ตติดตัวแดง ทีแรกกะถือ 5 วัน บอกตัวเองไม่เป็นไร ถือยาว 5 เดือน รอนักท่องเที่ยวมาละกัน เดี๋ยวงบดีเอง
ใครเคยเป็นแบบนี้บ้างครับ ตั้งใจซื้อลงทุนถือยาว แต่พอซื้อแล้วราคาหุ้นลง ทำใจไม่ได้ ตัดใจขายทิ้ง
หรือตั้งใจซื้อเก็งกำไร แต่ซื้อแพงเกินไป ราคาหุ้นลง เลยทนถือต่อไปเรื่อยๆ ผ่านมาหลายเดือนก็ยังไม่ได้ขาย
สาเหตุสำคัญก็คือ เราปล่อยให้ราคานำความคิด เลยพลอยลืมเหตุผลตอนแรกในการซื้อหุ้นไป
วันนี้วิตามินหุ้นจะมาสรุปเรื่องราวเหล่านี้ให้อ่านกันครับ
- ซื้อลงทุนด้วยเหตุผล แต่ขายขาดทุนเพราะอารมณ์
ย้อนกลับไปตอนแรกก่อนที่เราจะซื้อหุ้นตัวนี้ เป็นเพราะเหตุผลใด เราตื่นเต้นที่อยากเป็นเจ้าของกิจการนี้เพราะอะไร เราชอบในวิสัยทัศน์ ในแผนกลยุทธ์ของเขาใช่หรือเปล่า และเรามองภาพอนาคต 3 ปี 5 ปี ข้างหน้า ถ้ายานแม่ทำได้ตามแผน ถ้า Leasing เปิดสาขาได้ตามเป้า ถ้าบริษัทขยายกิจการไปต่างประเทศได้สำเร็จ ผลประกอบการก็จะออกมาตามที่หวัง
เราซื้อเพราะเราจินตนาการถึงอนาคตที่สดใสแบบนี้ แล้วทำไมเวลาผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ ไม่กี่เดือน ราคาลงมา เราเห็นตัวแดง เราถึงร้อนรนกระวนกระวาย เราต้องถามตัวเองว่า แผนการเขาเปลี่ยนไปมั้ย สถานการณ์เปลี่ยนไปหรือเปล่า มีอะไรที่แตกต่างจากตอนที่เราซื้อมั้ย ถ้าทุกอย่างเป็นปกติ และกำลังดำเนินไปได้ด้วยดีตามแผนงานของบริษัท หน้าที่เราคือคอยติดตามผลงานไปเรื่อยๆ เท่านั้นพอ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน เดี๋ยวราคาหุ้นก็น่าจะขึ้นเอง
อย่าหวังว่าราคาจะขึ้นใน 5 วัน ถ้าเราหวังจะเห็นผลลัพธ์ใน 5 ปี
- ซื้อเก็งกำไร แต่หุ้นลง ถือยาวก็ได้
สถานการณ์ตรงข้ามกับข้อแรก เราตั้งใจมาเก็งกำไร ไม่กี่ช่อง ไม่กี่วัน ตาม sentiment ตลาด ไม่ว่าจะเป็นข่าวเรื่องธีมเปิดเมือง ข่าววัคซีน ข่าวกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ พอเราเห็นข่าวดีปุ๊บ ทุกคนเชียร์ เรารีบซื้อปั๊บ โดยที่ไม่ได้ดูเลยว่า ราคาขึ้นมาแรงหลายวันแล้ว สุดท้ายเราซื้อแพง แล้วหุ้นก็ค่อยๆ ซึมลงๆ หลายคนทยอยขายทำกำไร เราก็ไม่กล้าขายกะว่าเดี๋ยวรอขึ้นมากำไรซัก 1-2 ช่องจะออก สุดท้ายราคาลงต่อ เราก็เลยต้องทนถือ จาก 5 วัน กลายเป็น 5 สัปดาห์ กลายเป็น 5 เดือน ก็ยังรออยู่ และเราบอกว่า เดี๋ยวขอรอดูงบก่อน เผื่อกำไรดี หุ้นอาจจะขึ้นมา
ถ้าเราซื้อเพราะเก็งกำไร เราก็ต้องมีจุดที่ยอมแพ้ ตรงไหนคือคัทก็ต้องคัท ไม่ใช่ว่าตอนเข้า ไม่ได้ดูพื้นฐาน แต่พอตอนติดดอย จะขอรอดูงบ แบบนี้ก็ไม่ถูกต้อง เพราะเราไม่ได้งบดูตั้งแต่ต้นทาง บางทีงบอาจจะไม่ดีอยู่แล้วตั้งแต่ต้นก็ได้ แต่ราคาขึ้นด้วย sentiment ด้วยความหวัง และคนอื่นๆ ที่เข้ามาซื้อก็อาจจะเก็งกำไรเหมือนเรา แต่เขาขายออกมาก่อนเรา
- ซื้อหุ้นที่จุดสูงสุด ที่คนรู้กันทั้งประเทศ
ถุงมือยางกำไรดี โรงพยาบาลตรวจและรักษา COVID กำไรดี หุ้นคอมโมดิตี้หลายตัวกำไรดี ถามเพื่อน อ่านข่าว ดูบทวิเคราะห์ ใครๆ ก็บอกว่า งบไตรมาสหน้าจะดี งบทั้งปีก็จะดี มีโอกาสเป็น All Time High ของบริษัท เราก็เลยมั่นใจจัดเต็ม แต่พอซื้อไปไม่นาน ราคาหุ้นกลับถอยลงๆ ทั้งๆ ที่กำไรก็น่าจะยังดูดี
เรื่องนี้ไม่ได้ผิดที่กำไร แต่เป็นเพราะเมื่อคนรู้กันทั้งประเทศ ราคาก็เลยขึ้นไปแรงตั้งแต่ก่อนที่งบจะออก และยิ่งคนคาดการณ์กันถูกด้วยว่างบไตรมาสหน้าจะดีกว่าเดิม ตลาดก็จะยิ่งรับรู้เข้าไปใหญ่ หรือที่เรียกว่า price in ไปหมดแล้ว ถ้าไม่มีเรื่องราวใหม่ๆ มาให้คาดหวังเพิ่มเติม ราคาหุ้นก็น่าขึ้นไปต่อได้ยาก
เราอาจจะลืมคิดไปว่า ตอนที่เราซื้อ เพราะเราตื่นเต้นกับกำไร new high แปลว่า ตอนที่เราจะต้องขายก็คือ เมื่อกำไรมันใกล้จะพีค หรือมันเริ่มที่จะแผ่ว หรือคือตอนที่คนเริ่มไม่ตื่นเต้นกับกำไรในอนาคตอีกต่อไป
ถ้าเรายังไม่ลืมวันแรกที่รักกัน คบกัน หรือแต่งงานกันด้วยเหตุผลใด
ก็จงอย่าลืมวันแรกที่เราอยากซื้อหุ้นตัวนั้น ว่าเป็นเพราะอะไร
เมื่อซื้อด้วยเหตุผลใด ก็จงขายเมื่อสิ่งนั้นหมดไป
อย่าลืมเหตุผลตั้งต้นที่เราซื้อหุ้น แล้วเราจะได้ไม่ต้องชอกช้ำใจ