ดูเหมือนว่าหุ้นค้าปลีกจะเจอกับปัญหาเรื่องของการปิดเมือง ปิดประเทศที่จะต้องกดดันผลประกอบการไปสักระยะ
สำหรับ CRC แล้วแน่นอนว่าผลประกอบการจะต้องโดนกดดันอย่างแน่นอน และมีแนวโน้มว่าไตรมาส 3 ที่กำลังจะประกาศออกมานี้จะขาดทุน (หนัก) อยู่เหมือนกัน
สรุปสาระสำคัญจาก บล.กรุงศรี มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง อยากมาเล่าสู่กันฟังครับ
1. ผลประกอบการไตรมาส 3 จะขาดทุนมากถึง 2.2 พันล้านบาท
หลักๆมาจากธุรกิจแฟชั่นที่เป็นรายได้หลัก ลดลงมากถึง 27% ธุรกิจอาหารลดลง 20% ในขณะที่ธุรกิจฮาร์ดไลน์ทรงตัว เพราะได้ COL เข้ามาช่วย
ทำให้ผลประกอบการของ CRC น่าจะขาดทุนราวๆ 2.2 พันล้านบาท ...
2. การฟื้นตัวจะดีขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้
ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าผลประกอบการจะเป็นจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ปีนี้ และจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในไตรมาส 4 ส่งผลสะท้อนไปยังปี 2022-2023 ต่อไป
3. ธีมการลงทุน คือ ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดช่วง Lockdown ... แต่ราคาหุ้นสะท้อนไปแล้ว
ธีมของการเปิดเมือง แม้จะได้รับความนิยมจากนักลงทุนช่วงนี้ และ CRC ก็เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากการเปิดเมือง ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 3 นี้น่าจะเป็นจุดต่ำสุด
แต่ถ้าดูจากราคาหุ้นที่เคลื่อนไหว CRC จะให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index 5% และยัง Outperform กลุ่มมากถึง 3% นั้นหมายความว่าราคาหุ้นได้ถูกสะท้อนไปแล้วเรียบร้อย
สิ่งที่นักลงทุนต้องติดตามคือ การเปิดประเทศในไตรมาส 4 จะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อผลประกอบการ CRC อย่างไร เพราะถ้าฟื้นตัวได้ดี จะส่งผลไปยังปีหน้าอีกด้วย
... สรุปแล้วฝ่ายวิจัยแนะนำ "ถือ"
ถึงแม้ว่าไตรมาส 3 ผลประกอบการจะมีแนวโน้มขาดทุนอยู่มาก แต่ถ้าดูรายได้และกำไรที่บริษัททำได้ในอดีตแล้ว ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นปัญหาระยะสั้น
ในปี 2561 บริษัทมีรายได้ 2.03 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 1.09 หมื่นล้านบาท
ในปี 2562 บริษัทมีรายได้ 2.22 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 1.06 หมื่นล้านบาท
ในปี 2563 บริษัทมีรายได้ 1.94 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 46.27 ล้านบาท (เริ่มโควิด) **
.
ในปี 2564 ผลประกอบการ 6 เดือน บริษัทมีรายได้ 0.95 แสนล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 70 ล้านบาท
นั้นหมายความว่าภายใต้สถานการณ์ปกติ CRC มีผลประกอบการที่กำไรอยู่แล้ว ถ้าเรามองระยะยาวๆก็เป็นอีกหุ้นที่ไม่ควรมองข้าม ครับ
-----------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=CRC&ssoPageId=5&language=th&country=TH