นี่เป็นประเด็นที่ซับซ้อนมาก มันเป็นเรื่องของการ Cross ระหว่าง Royalty กับ ความก้าวหน้า ...ผมเคยพยายามหาคำตอบจากการศึกษาคนที่มีเงินเดือนสูงว่า "ทำไมคนเหล่านั้นถึงเงินเดือนสูง"

หลายๆคนอาจนึกว่า การที่คนๆหนึ่งสามารถที่จะ ก้าวไปสู่ตำแหน่งระดับสูงในองค์กร มันเป็นเรื่องของโชคชะตา "แต่แล้วมันเป็นเรื่องของโชคชะตาจริงๆหรือ" --การก้มหน้า ก้มตาทำงานอย่างหนัก มันทำให้คุณสามารถเป็นผู้บริหารหรือ CEO ขององค์กรได้จริงหรือ ..ถ้าไม่ใช่แล้วอะไรที่จะทำให้คนๆหนึ่งสามารถ โตขึ้นมาอย่างโดดเด่นเหนือคนอีก เป็นพันเป็นหมื่นคนได้

แน่นอนคนที่จะสามารถก้าวมาเป็นผู้บริหารระดับสูง ก็คือ "ความโดดเด่น" ซึ่งก็หมายความว่า การที่พยายามมองหาจุดเด่นของตัวเอง และพยายามที่จะทำให้ ตัวเองสามารถแสดงออกให้คนอื่นเห็นให้ได้ จึงไม่แปลกที่คนเหล่านี้จะ "ขี้โม้" เพราะอย่างน้อยเมื่อคุณโม้ (มันก็อาจจริงหรือไม่จริง) แต่อย่างน้อยมันก็สามารถทำให้ คนฟัง อยากจะหาคำตอบ ถึงแม้จะด้วยเหตุแห่งความหมั่นไส้ก็ตาม การท้าทาย หรือ ตั้งตัวขัดแย้ง ก็เป็นอีกจุดที่สร้างความโด่ดเด่นได้เช่นกัน แต่ต้องตั้งบนความฉลาดแห่งการใช้นั่นเอง

สิ่งสำคัญที่สุดในการ ก้าวเข้าสู่ Radar ของผู้นำ มันย่อมเกิดจาก การทำตัวให้ Radar ขององค์กร สามารถที่จะจับเราได้หรือไม่ต่างหาก และประเด็นที่จะ Stay on the Radar ก็คือ

1. การทำตัวให้มีค่า - คนเราจะมีค่าหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ตัวเราเองมอง มันอยู่ที่คนอื่นมองต่างหาก ดังนั้น คนที่ทำตัวเองให้เป็นที่ต้องการ มันหมายถึงการทำให้ตัวเองมีทางเลือกอยู่ตลอดเวลา นั่นก็คือ "ถ้าผู้บริหาร ไม่เห็นค่า คุณก็ควรที่จะสามารถเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่นได้ตลอดเวลา" (การทำตัวให้มีค่า) ไม่ได้แปลว่า คุณต้องเปลี่ยนงาน หากแต่ทำตัวให้อยู่ในวงจรของการหางานต่างหาก เช่น การฝาก Resume ไว้กับ Head Hunter เพื่อเปิดโอกาสและ Check Rating ของตัวเองอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

2. เป็นนัก Lobby ชั้นเยื่ยม (แกล้งโง่ แต่ไม่โง่) จุดนี้หมายความว่า ท่านต้องไม่แสดงตัวอวดเก่งในที่ประชุม เพราะการประชุมคือ สถานที่สำหรับทำลาย Idea นั่นเอง เพราะไม่ว่า Idea ท่านจะดีเท่าใด มันก็ไม่มีทางผ่านการปองร้ายจากที่ประชุมได้ ดังนั้น ต้อง Lobby อย่างเดียวเท่านั้น (และจงทำตัวโง่ ในที่ประชุม เพราะมันเป็นวิธีที่ฉลาดที่สุดนั่นเอง) 

3. ทำงานที่ทำให้ตัวเองฉลาดขึ้นเท่านั้น จุดนี้หลายๆคนอาจมองว่า Tricky เพราะมันเรียกว่าหัวหมอนั่นเอง แต่สิ่งที่เราต้องเข้าใจก็คือ เวลาเป็นสิ่งมีค่า ที่มีอยู่อย่างจำกัด "คนที่สามารถ บริหารเวลาให้เกิดประโยชน์กับตัวเองสูงสุดเท่านั้น จึงจะเป็นผู้ชนะ"

4. มองภาพใหญ่ให้ออก แต่ทำแต่เรื่องเล็กๆเพื่อสร้างผลงานให้ได้มากที่สุด (Think Globally, Act Locally)การทำงานในองค์กร โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะแสดงผลงานได้ (เพราะส่วนใหญ่ คนในองค์กร ล้วนแต่เป็นคู่แข่งทั้งสิ้น)ดังนั้น การพยายามสร้างผลงานหรือ Track Record ก็คือ One bit at a time ทำเรื่องเล็กๆเพื่อที่จะสามารถสร้างผลงานได้ แต่ก็ต้องมองภาพใหญ่ให้ออกด้วย (ภาพใหญ่ก็หมายถึง ภาพรวมขององค์กร รวมทั้งต้องวิเคราะห์ผู้เล่นทุกตัวให้ออก)

5. Branding ตัวเอง -- คนทุกคนก็เหมือนสินค้าชนิดหนึ่ง คนที่มีนามสกุลดัง ก็โชคดีในระดับนึง เหมือนสินค้าที่มี Brand แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะสร้างจากศูนย์ไม่ได้ เช่น Google , Starbucks ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ดังไม่แพ้ Coke ได้ จุดนี้ขึ้นกับวิธีการนั่นเอง

สรุปว่า คนที่เงินเดือนสูง ทุกคน ไม่มีใครนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานไปวันๆ เพราะนั่นจะนำคุณไปสู่หนทางที่คนส่วนใหญ่ไป นั่นคือ เงินเดือนไม่สูง ..(ทุกสิ่ง ไม่ได้มา จากโชคชะตา มันอยู่ที่ คุณเองต่างหาก ที่เข้าใจและลงมือทำหรือไม่นั่นเอง !!)