หลังจากที่ประเทศไทยมีการประกาศที่จะเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และพยายามพลิกฟื้นธุรกิจการท่องเที่ยว เศรษฐกิจของประเทศที่หายไปถึง 2 ปีเต็ม
โดยทางรัฐบาลคาดหวังว่า "นักท่องเที่ยวจีน" จะเป็นกลุ่มแรกๆที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมหาศาล
แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันอาจจะ "ผิดคาด"
การท่องเที่ยวไทยจำเป็นจะต้องเจาะตลาดอื่นให้มากขึ้น ไม่อาจหวังพึ่งนักท่องเที่ยวจีนได้อีกต่อไปแล้ว
เมือ่ไม่นานมานี้ทางการจีนประกาศว่าได้พบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่มีแนวโน้มลุกลามบานปลายอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่วันนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ดับความหวังของบรรดาผู้ประกอบการ และทำให้ทั่วโลกจับจ้องไปที่สถานการณ์ในจีนอีกครั้งว่า นโยบายสกัดโควิด-19 เชิงรุกของจีนนั้นจะควบคุมได้หรือไม่
หน่วยงานสาธารณสุขของจีนยอมรับว่าแนวโน้มผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งทำให้สถานการณ์จะย่ำแย่ลงไปอีก และสายพันธุ์ที่พบเป็นสายพันธุ์เดลตาที่มาจากต่างประเทศโดย ได้เผยแพร่กระจายไปแล้วในกว่า 11 มณฑล และมียอดผู้ติดเชื้อเกือบ 200 คนในประเทศ สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
... อีกทั้งสื่อทางตะวันตกได้ออกมาบอกว่า จีนได้ซุกปัญหานี้อยู่ใต้พรม ไม่ได้เปิดเผยให้โลกรับรู้
อย่างไรก็ตามทางการจีนได้พยายามควบคุมอย่างเต็มที่และพยายามให้ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ให้ได้ด้วยการบังคับใช้มาตรการที่เข้มข้นทันทีที่พบผู้ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการล็อกดาวน์ การระดมตรวจเชื้อ และการจำกัดการเดินทางข้ามประเทศ
.. แน่นอนว่าการจำกัดการเดินทางข้ามประเทศกระทบกับการท่องเที่ยวไทยแน่นอน
อย่างไรก็ตามกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีนได้ออกประกาศว่า ปัจจุบันจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัททัวร์พานักท่องเที่ยวชาวจีนออกนอกประเทศ และในทางกลับกันก็ไม่อนุญาตให้กรุ๊ปทัวร์จากต่างชาติเข้าจีนด้วยเช่นกัน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า การแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้จะยิ่งทำให้โอกาสที่จีนจะผ่อนคลายมาตรการสกัดโควิดลดน้อยลงไปกว่าเดิม ฉะนั้น ธุรกิจที่ได้อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวจีนในต่างประเทศจึงอาจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ในเร็ว ๆ นี้
สำหรับไทย แม้จีนจะเป็น 1 ใน 46 ประเทศเสี่ยงต่ำที่ทางการอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสและปลอดโควิดสามารถมาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่เปอร์เซ็นต์ที่นักท่องเที่ยวจะมาเยือนบ้านเราคึกคักเหมือนแต่ก่อนยังยากมากจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น
1. กรุ๊ปทัวร์ใหญ่ ที่มีกำลังซื้อมหาศาลนั้นอาจจะมาช้ากว่าที่คาด หรือไม่สามารถเดินทางมาได้ เพราะการควบคุมที่เข้มข้นของจีนทำให้นักท่องเที่ยวจีนที่จะออกไปต่างประเทศต้องคิดหนัก ส่งผลให้เที่ยวบินมีน้อยลงกว่าเดิมมาก
2. เมื่อเที่ยวบินน้อยลง ที่นั่งต่อคนก็ราคาสุงขึ้นเพื่อให้คุ้มต่อการวิ่งของเครื่องบิน ว่ากันว่าเส้นทางบินกวางโจว-กรุงเทพฯ ขณะนี้ราคาตั๋วอยู่ที่ราว 29,000 บาท เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากช่วงเวลาปกติ และยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการต่อเครื่องบินและต่อรถ หากบางพื้นที่ของประเทศมีการปิดเมืองสกัดโควิด
3. นโยบายการกลับเข้าประเทศจีนของชาวจีน มีความยุ่งยากมากกว่าเดิม ทั้งการตรวจเชื้อและกักตัวที่อาจกินเวลาร่วมเดือน อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการกักตัวนั้นรัฐบาลจะให้นักเดินทางเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งก็กลายเป็นว่า ทริปเที่ยวไทยที่เคยมีราคาสบายกระเป๋า กลับต้องใช้เงินเทียบเท่ากับทริปทัวร์ยุโรปสุดหรูในช่วงเวลาปกติ
4. ไทยยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับการท่องเที่ยวไทยมากเพียงพอ เช่นประเด็นเรื่องของการฉีดวัคซีน ณะนี้ประเทศไทยยังมีอัตราการฉีดวัคซีนไม่ถึง 50% ของประเทศ ซึ่งเป็นจุดที่รัฐบาลต้องเรียกคืนความเชื่อมั่นให้ได้ และออกข้อเสนอพิเศษที่น่าดึงดูดใจนักท่องเที่ยว เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยอีกแรง
ด้วยสาเหตุที่ว่ามา ทำให้สรุปได้ว่าการคาดหวังแต่นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยอย่างเดียวนั้นอาจจะไม่เพียงพอแล้ว ทางรัฐบาลต้องมีการเจาะตลาดใหม่ หรือส่งเสริมคนในประเทศให้หันมาเที่ยวไทยมากขึ้น นั้นเอง
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.infoquest.co.th/2021/139464