#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

ใช้กราฟหุ้น อย่างนักลงทุนพื้นฐาน

โดย Stock Vitamins - วิตามินหุ้น
เผยแพร่:
227 views

"ดูพื้นฐานหุ้น ดูกราฟด้วยเหรอ ?"
เวลามีคนถามผมว่า พี่ดูกราฟด้วยหรอ ดูอะไร ใช้ indicator แบบไหน แล้วมันไม่ปนกับพื้นฐานหรอ

วันนี้ผมเลยอยากจะเล่าให้ฟังเบื้องต้นครับว่า โดยปกติผมดูพื้นฐานเป็นหลัก อ่านงบการเงิน วิเคราะห์ Business Model ส่วนกราฟเอามาประกอบประมาณ 10% แบบนี้

1. มองความสัมพันธ์ของราคาและอัตราส่วนงบการเงิน
เริ่มแรกผมเปิดกราฟ Week เพราะต้องการเห็นภาพใหญ่ว่าราคาเป็นรูปแบบไหน และผมก็จะใส่ กำไรสุทธิ กับ รายได้ คู่กัน ลองดูภาพประกอบนะครับ เราจะได้ กราฟ 3 ชั้น คือ ราคา กำไร และรายได้ แต่ต้องโน้ตไว้ว่า กำไรและรายได้จะเป็นรายไตรมาส และเวลาประกาศงบก็คือ 45 วัน หลังจบไตรมาส และ 60 วัน หลังจบปี

ผมจะชอบหุ้นที่กำไรเป็นขาขึ้น แปลว่า บริษัทนั้นผลการดำเนินงานดี ถ้าดูจากรูป คือ กำไรเป็นขั้นบันไดเดินเป็นขาขึ้น ทีนี้ถ้ารายได้เป็นบันไดขาขึ้นเหมือนกัน ก็ยิ่งน่าสนใจ แปลว่า กำไรนั้นมาจากขายของดีขึ้น ไม่ใช่การลดต้นทุน หรือ ค่าใช้จ่าย (ใครจะเอา COGs, SG&A, ค่าเสื่อม มาใส่ในกราฟด้วยก็ได้นะ แต่ระวังว่ายิ่งเยอะจะยิ่งงง ค่อยๆ ดูไปเป็นคู่ๆ จะดีกว่า)

โดยหลักการ ราคาหุ้นควรจะวิ่งขึ้นและลงไปในทิศทางเดียวกันกับกำไร แต่ก็อาจจะมีบางช่วงบางตอนที่ราคาลดลงมาตามความผันผวนของตลาด ตามความกลัว ตามข่าว ตามสตอรี่ต่างๆ แต่ถ้าเรายังเห็นภาพว่า บันไดยังขึ้นได้ต่อ ถ้ามันยังขึ้นได้ต่อ ก็อาจจะเป็นโอกาสในการซื้อ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ราคาเริ่มลง และเรายืนอยู่บนบันไดขั้นสุดท้าย ข้างหน้าเป็นบันไดทางลง บางทีเป็นลิฟต์ หรือบางทีเป็นหุบเหว ถ้าแบบนั้นก็จะเป็นจุดให้ต้องระวัง หรือเตรียมขายได้เช่นกัน


2. EMA กับงบการเงิน
เมื่อดูภาพใหญ่เห็นถึงความสัมพันธ์ของราคา กำไร และรายได้ชัดแล้ว ผมจะลงมาดูกราฟ Day ทีนี้ผมจะเปลี่ยนมาใช้ P/E เข้ามาแทนโดยดูคู่กับราคา และจะเอา EMA 2 เส้นเข้ามาช่วยดูเพื่อให้เห็นภาพราคาชัดขึ้น

EMA50 คือ ราคาเฉลี่ย 50 วัน คิดกลมๆ ก็คือ 1 ไตรมาส เพราะฉะนั้น เส้นนี้ คือ ตัวแทนราคาสำหรับงบรายไตรมาส

EMA200 คือ ราคาเฉลี่ย 200 วัน คิดกลมๆ ก็คือ 1 ปี เพราะฉะนั้น เส้นนี้ คือ ตัวแทนราคาสำหรับงบรายปี

เวลาผมดู ผมก็จะพิจารณาว่า ถ้าหุ้นที่งบไตรมาสนี้ดี และไตรมาสหน้าก็จะดี ราคาหุ้นมันไม่ควรไปอยู่ต่ำกว่า EMA50 และเช่นกันถ้ามองแล้วว่า ถ้าทั้งปีงบก็จะดี ราคามันก็ไม่ควรจะตกไปต่ำกว่าเส้น 200 วัน

แปลว่า ถ้าเราวิเคราะห์บริษัทแล้วคิดว่างบน่าจะดีทั้งไตรมาสหน้า และทั้งปี แต่ราคาหุ้นมันอยู่ต่ำกว่าทั้ง  2 เส้น เราก็อาจจะมองเป็นโอกาสในการซื้อได้ หรือในทางตรงกันข้ามถ้างบจะไม่ดี ราคาหุ้นลงนำมาก่อนงบที่ยังไม่ประกาศ เราก็อาจพอเดาได้ว่า มีคนชิงขายออกมาก่อนหรือเปล่า มีคนรู้อนาคตก่อน เราก็จะได้ระวังตัวและวางแผนทัน


จริงๆ วิธีการผสมผสานทั้งพื้นฐานและกราฟ ยังดูได้อีกหลายแบบนะครับ เราอาจจะใช้ทั้งอัตรากำไร GPM, NPM มาดูแนวโน้มล่วงหน้า ดูค่าเสื่อมว่าจะตัดหมดหรือยัง ดูแนวรับแนวต้าน ดูโวลุ่มเยอะที่ราคาไหนเป็นพิเศษ คือ มีหลากหลายวิธีการมากมาย แล้วไว้มีโอกาสจะเอามาเล่าให้ฟังกันครับ
... แต่ก็ต้องย้ำว่า เวลาเราดูความสัมพันธ์เหล่านี้แล้ว ก็ไม่ได้แปลว่า หุ้นต้องขึ้นต้องลงแบบนี้เสมอไป เพียงแต่เรามีเครื่องมือเพิ่มขึ้นเพื่อศึกษาถึงความสัมพันธ์ในรูปแบบที่ง่ายขึ้น และวางแผนการได้ดีขึ้น และก็เรียนรู้กันไปอย่างต่อเนื่องครับ


ผู้ชนะแข่งขันโครงการ Stock Writer ของ stock2morrow

https://www.facebook.com/pg/stock.vitamins

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง