เรากำลังอยู่ในช่วงเทศกาลประกาศงบการเงิน ประจำไตรมาส 3 ปี 64
ซึ่งแน่นอนว่า ส่วนใหญ่คงออกมา ดูมีรสชาติ (ดูไม่จืด) แน่นอน
เพราะมันคือไตรมาสที่เราล็อคดาวน์กันเข้มข้น นานถึง 2 ใน 3 เดือน
มีเคอร์ฟิว
มีปิดร้านอาหาร
มีปิดห้าง
มี WFH ฯลฯ
"งบธนาคารพาณิชย์" จะออกมาเป็นชุดแรก และก็คงตามคาดว่าคงไม่ดี
รวมทั้งหุ้นสารพัดกลุ่ม ทั้ง สนามบิน โรงแรม รถไฟฟ้า ห้าง ป้ายโคนา สื่อสาร อสังหา ฯลฯ ไตรมาส 3 ออกมาไม่ดีหรอก
สถานการณ์ประกาศผลประกอบการรอบนี้ จึงไม่ค่อยสดใสมากนัก
ช่วงประกาศงบจะกินเวลาตั้งแต่ สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนต.ค. ถึงกลางเดือน พ.ย.
ถ้าเป็นช่วงปกติ เล่นหุ้นเก็งกำไรตามผลประกอบการรายไตรมาส
งบที่แย่ของหุ้นจำนวนมากๆ จะกดดันดัชนีและราคาหุ้นไปจนถึงสิ้นปี
กว่าจะได้งบไตรมาส 4 ที่ประกาศปีหน้าออกมาช่วย
แต่นาทีนี้ นักลงทุนจำนวนหนึ่ง เลือกมองข้ามช็อต
โดยเฉพาะ นลท.ต่างชาติ ที่กลับจาก "ขาย" มาเป็น "ซื้อ" หุ้นไทยตั้งแต่ปลายสิงหา (กราฟเส้นสีเขียว)
เพียงเดือนกว่าๆ ซื้อสุทธิไป 4 หมื่นกว่าล้านบาท
ตรงข้ามกับ นลท.สถาบันในประเทศ (เส้นสีส้ม)
ที่ "ขายสุทธิ" หุ้นไทยออกไป 2.5 หมื่นล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกัน
คหสต. ผมคิดว่าที่ต่างชาติเข้าซื้อหุ้นไทย เพราะ 2 สาเหตุ
1. ฝรั่งมองข้ามผลประกอบการไตรมาส 3 และ 4
แล้วให้ความสำคัญกับทิศทางผลประกอบการปี 65 ไปเลย ซึ่งถ้าเราเปิดประเทศเปิดเมืองตลอดรอดฝั่ง ราคาหุ้นหลายตัว เทียบสมมติฐานปีหน้า ถือว่ายังน่าสนใจอยู่
2. ค่าเงินบาท ปีนี้อ่อน และเชื่อว่า ปีหน้าเศรษฐกิจฟื้นขึ้น ค่าเงินในภูมิภาคนี้รวมไทยด้วย จะแข็งค่าขึ้น
แต่ในฝั่งนลท.สถาบันในประเทศ
"ผู้กอง" ที่ขายออกมา อาจจะเป็นการ take profit , ขายปรับพอร์ท, ขายเพื่อเตรียมกลับมาซื้อใหม่ปลายปีอีกที ฯลฯ
อันนี้ไม่อาจรู้ได้
แต่คหสต. คือสุดท้ายกองทุนน่าจะกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย ในช่วงเวลาที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆเริ่มเห็นชัดเจนขึ้น
ซึ่งน่าจะเป็นช่วงปลายปี หลังจากเปิดประเทศเข้าสู่ช่วง High Season ของหลายๆอย่าง นี่แหละ
ช่วงเวลานี้ "ต่างชาติ" และ "กองทุน" ออกกระบวนท่าสวนกัน
ฝั่งนึงซื้อ ฝั่งนึงขาย
แต่เมื่อไหร่ที่ "ต่างชาติ" และ "กองทุน" ออกกระบวนท่าซื้อเหมือนกัน
เมื่อนั้นถึงจะเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ๆได้
ซึ่งนั่นต้องมาพร้อมแนวโน้มบวก ของผลประกอบการบ.จดทะเบียนด้วย
ก็หวังว่าจะได้เห็น นะครับ
เพราะถือรอมาพักใหญ่แล้ว มาช้าไม่ว่า
แต่ไม่มา มีโกรธนะเว้ยเฮ้ย