ทำไมการวางแผนการเงิน จึงต้องมีประกันเข้ามาเกี่ยวด้วย ..
มักเป็นคำถามที่หลายๆคนที่ไม่เข้าใจแก่นแท้ของการวางแผนการเงิน
มักจะถามหรือสงสัย
เป้าหมายการเงินอื่นสามารถใช้เครื่องมือการเงินหลายๆอย่างได้
แต่เป้าหมายโอนย้ายความเสี่ยง
ใช้เงินก้อนเล็กเพื่อซื้อเงินเพื่อความคุ้มครองก้อนใหญ่
ไม่มีอะไรทำหน้าที่แทน "ประกัน" ได้หรอกครับ
แล้วประกันมันทำอะไรให้เราได้บ้างหละ
ขออนุญาตแชร์เนื้อหาที่น้องตังตังค์ WDC Group
ที่บอกถึงประโยชน์ 10 ข้อของประกันมาให้อ่านดูนะครับ
1. ทำให้รู้สึกปลอดภัย
ความเสี่ยงมีอยู่ทุกที่ทุกเวลาสามารถเกิดขึ้น
แม้กระทั้งในตอนที่เรากำลังมีความสุขกับการใช้ชีวิต
แต่หากเราเตรียมโอนย้ายความเสี่ยงไว้ตั้งแต่ต้น
ก็จะทำให้เราอุ่นใจขึ้นหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
2. เงินชดเชย
หากเจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เงินชดเชยประกันจะสามารถทำให้คนที่เรารักและห่วงใยใช้ชีวิตต่อไปได้แม้ในวันที่เราไม่อยู่
3. มีเงินใช้หลังเกษียณ
รูปแบบของการประกันต่างๆมีมากมาย
เช่น ประกันแบบบำนาญหรือประกันควบการลงทุน
ที่สามารถใช้เป็นส่วนนึงในการวางแผน
เตรียมกองทุนเพื่อการเกษียณ
4. สอนให้เราวางแผนอย่างเป็นระบบ
การวางแผนการจ่ายค่าเบี้ยประกัน
ในทุกๆเดือนหรือทุกๆปี สามารถช่วยให้เรา
ได้เรียนรู้ถึงการจัดสรรและวางแผนรายจ่าย
ให้เป็นระบบได้มากขึ้น
5. หมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล
หากประสบอุบัติเหตุหรือมีปัญหาสุขภาพ
ที่อาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง
บริษัทประกันมีหน้าที่ในการช่วยจ่ายค่ารักษา
ทำให้เราอุ่นใจได้ว่า ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ชีวิตเราและครอบครัวจะยังอยู่ได้ โดยไม่ต้องนำเงินออมมาใช้
หรือต้องไปกู้ยืมเงินเพื่อมารักษาตัวเอง
6. ลดหย่อนภาษี
รัฐบาลต้องการการสนับสนุนและเพิ่มแรงจูงใจในการทำประกันมากขึ้น จึงมีนโยบายให้สามารถ
นำค่าเบี้ยประกันมาใช้ลดหย่อนภาษีได้
โดยประกันสุขภาพลดหย่อนได้ ไม่เกิน 25,000บาทและเมื่อรวมประกันชีวิตไม่เกิน 100,000บาท/ปี
และประกันแบบบำนาญ ลดหย่อนได้
15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000บาท/ปี
7. ช่วยออมเงิน
การทำประกันสามารถมองเป็นการลงทุนรูปแบบนึง
แล้วแต่แบบประกันที่เลือก สามารถมีความเสี่ยงที่ทั้งสูงและต่ำ มอบผลตอบแทนที่ต่างกันไป
8. เพิ่มความน่าเชื่อถือ
การทำประกันชีวิตยังสามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเราได้อีกด้วย เช่น ในการกู้ผ่อนบ้าน ธนาคารอาจอนุมัติวงเงินกู้ในการผ่อนให้ได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
หากรู้ว่าเรามีประกันชีวิต เนื่องจากธนาคารสามารถมั่นใจได้ว่า หากเกิดเหตุไม่คาดฝันใดๆขึ้นกับผู้กู้
ทางธนาคารก็จะได้รับเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยคืนเต็มจำนวนจากทางบริษัทประกันอย่างแน่นอน
9. วิธีการแสดงความรักแบบใหม่
บางคนอาจเล็งเห็นว่าการทำประกันให้คนที่เรารัก
เป็นการแสดงความห่วงใยที่เรามีให้ในรูปแบบหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ทำให้ลูก หรือ คนรักทำให้กัน
10. ปลอดภัยกว่าการลงทุนในหุ้น
การทำประกันสะสมทรัพย์อาจจะไม่ได้ให้
ผลตอบแทนสูงเท่ากับการลงทุนในตลาดหุ้น
แต่การทำประกันก็สามารถถือเป็นการกระจาย
ความเสี่ยงในพอร์ตได้หมือนกัน
ทุกคนคงเห็นแล้วใช่ไหมครับว่าการทำประกันนั้น
ให้ประโยชน์กับเรามากขนาดไหน